ใช้การตลาดในการเลือกที่ตั้งสำหรับร้านค้าของคุณกันเถอะ! มีวิธีเฉพาะเจาะจงอย่างไร?

การวิเคราะห์ที่ตั้ง
This article can be read in about 14 minutes.

การจะเปิดร้านให้ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องเลือกสถานที่ตั้งโดยคำนึงถึงการตลาดเป็นหลักการเลือกทำเลที่เหมาะสมกับแต่ละร้านค้าจะส่งผลดีต่อการดึงดูดลูกค้าและจะช่วยให้ร้านค้าสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง
ในบทความนี้ เราจะนำเสนอประเด็นในการเลือกที่ตั้งและการทำการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่เปิดร้านเป็นครั้งแรกและผู้ที่กำลังจะเปิดร้านของตัวเอง

“หากคุณยังไม่ค่อยทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการเปิดร้านใหม่ แต่ต้องการหาทำเลที่ดีสำหรับร้านใหม่ของคุณและทำให้ประสบความสำเร็จ”เราสนับสนุนให้คุณใช้บริการนี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของกระบวนการเลือกทำเลที่ตั้ง

“ทำเลที่ดี” สำคัญมากสำหรับการเปิดร้าน!

เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการเปิดร้านค้า สิ่งสำคัญคือที่ตั้งที่เป็นตัวเลือกสำหรับเปิดร้านใหม่ต้องเป็น “ทำเลที่ดี” ซึ่งทำเลที่ดีหมายถึง “สถานที่ที่เหมาะสมในการทำธุรกิจ”แต่สถานที่แบบไหนที่เรียกได้ว่าเป็นทำเลที่ดีในการเปิดร้าน?
“การรับรู้ด้วยสายตา” และ “การเดินผ่านหน้าร้าน” เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าจดจำร้านได้ และการตรวจสอบที่ตั้งอย่างละเอียดก็จำเป็นต่อการทำการตลาดของร้านค้า

ในปัจจุบันลูกค้ารู้จักร้านค้าผ่านเว็บไซต์มากขึ้น อย่างไรก็ตามหลายคนยังคงคิดว่า “ร้านค้าที่ไปง่าย” คือร้านที่เข้าง่ายเมื่อคนเดินผ่านไปมาดังนั้นการเปิดร้านในทำเลที่ดีจะทำให้ลูกค้าจดจำได้และไปที่ร้านมากขึ้น นอกจากนี้หากคุณเลือกอสังหาริมทรัพย์ที่มีทำเลที่ดีและเปิดร้านก็จะดึงดูดลูกค้าใหม่ได้ง่ายขึ้น ถ้าประสิทธิภาพในการดึงดูดลูกค้าเพิ่มขึ้นก็จะช่วยลดค่าโฆษณาและเพิ่มกำไรได้ง่ายขึ้น

สามประเด็นที่พลาดไม่ได้ในการเลือกที่ตั้งร้านค้า

ตอนนี้เราจะอธิบายสามประเด็นและข้อได้เปรียบที่จำเป็นต่อการเลือกที่ตั้งในการเปิดร้าน มาตรวจสอบวิธีการเลือกที่ตั้งโดยคำนึงถึงการตลาดเพื่อให้ประสบความสำเร็จในการเปิดร้านใหม่กัน

ประเด็นที่ 1: ทำเลอยู่ในพื้นที่ที่ลูกค้าเป้าหมายรวมตัวกันอยู่หรือไม่?

ประเด็นแรกที่คุณต้องตรวจสอบเมื่อเลือกทำเลคือ “ลูกค้าเป้าหมายจะรวมตัวอยู่ในพื้นที่นั้นจำนวนเท่าไร?”“ลูกค้าเป้าหมาย” คือลูกค้าที่ไม่เคยใช้สินค้าหรือบริการที่ร้านมาก่อน แต่มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นลูกค้าในอนาคต สำรวจและวิเคราะห์เพื่อหาจำนวนลูกค้าเป้าหมายที่รวมตัวกันในพื้นที่ที่วางแผนจะเปิดร้าน
จำนวนวลูกค้าเป้าหมายที่รวมตัวกันรอบๆ ร้านแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับระยะทางจากสถานีและถนนที่หันหน้าเข้าหาร้านยิ่งมีลูกค้าที่อาจเป็นไปได้มากเท่าไร ก็ยิ่งมีแนวโน้มที่จะได้ลูกค้ามากขึ้นดังนั้นควรศึกษาเวลาที่ต้องใช้จากสถานีและถนนการค้า จำนวนประชากรในพื้นที่ และปัจจัยอื่นๆ
นอกจากนี้ การเข้าใจไลฟ์สไตล์ของพื้นที่การค้าตามวันและเวลาที่ร้านค้าของคุณเปิดบริการก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันตัวอย่างเช่น ร้านค้าที่เปิดในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์เหมาะสำหรับครอบครัวและนักเรียน ร้านค้าที่เปิดในวันธรรมดาเหมาะสำหรับพนักงานบริการและแม่บ้านที่ไม่ว่างในช่วงวันหยุด หากคุณมีกลุ่มเป้าหมายของร้านค้าที่ชัดเจน ก็จะรู้ว่ามีลูกค้าที่เป็นไปได้อยู่จำนวนเท่าไร และสิ่งนี้จะเป็นส่วนในการตัดสินใจเมื่อเลือกทำเลที่ตั้ง
การตรวจสอบนี้ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญจากมุมมองทางการตลาดเชิงพื้นที่ เราขอแนะนำให้คุณรวบรวมข้อมูลอย่างละเอียดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่จะสามารถใช้ได้ ไม่ใช่แค่ตอนเปิดร้าน แต่เพื่อวางแผนกลยุทธ์, มาตรการส่งเสริมการขาย, และการปรับปรุงการดำเนินงานหลังจากเริ่มธุรกิจ

ในหน้าต่อไปนี้แนะนำวิธีการหาประชากรและจำนวนครัวเรือนในบริเวณใกล้เคียงกับทำเลที่เป็นตัวเลือก

การวิเคราะห์ที่ตั้งของร้านค้า - Terramap Thailand
การวิเคราะห์ที่ตั้งของร้านค้า การวิเคราะห์ที่ตั้งร้านค้า คือ การทำการสำรวจรอบๆ พื้นที่ที่มีศักยภาพ เมื่อเปิดร้านแห่งใหม่ บริษัทที่พัฒนาร้านค้า เช่น บริษัทค้าปลีกและบริษัทให้บริการ ต้องผ่านกระบวนการต่างๆ ในช่วงเวลาของการวางแผน และจากนั้นจึงตัดสินใจเปิดร้านค้า ทำไมคุณถึงต้องวิเคราะห์ที่ตั้งของร้านค้า? เมื่อเปิดร้านใหม่ หากคุณตัดสินใจว่าจะเปิดร้านในอสังหาริมทรัพย์ที่ว่างเพราะค่าเช่าราคาถูกหรือเพราะอยู่ใจกลางเมือง คุณอาจล้มเหลว เนื่องจากต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากในการเปิดร้าน ดังนั้นการวิเคราะห์ว่าจะเปิดร้านที่ไหนเพื่อให้ทำกำไรได้เร็วที่สุดจึงเป็นสิ่งสำคัญ ข้อที่ 1: มีคนจำนวนมากใช้ร้านของคุณอยู่ที่นั่นหรือไม่? ตรวจสอบประชากรของพื้นที่การค้า (ขอบเขตที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้) และตรวจสอบขนาดของตลาด สิ่งสำคัญคือ การค้นหาอายุและเพศเพื่อดูว่าตรงกับกลุ่มเป้าหมายของร้านคุณหรือไม่ ข้อที่ 2: ที่ตั้งของร้านสะดวกสำหรับลูกค้าในการไปหรือไม่? ตัวอย่างเช่น หากมีลูกค้าจำนวนมากมาที่ร้านด้วยการเดิน และแม้จะอยู่ในระยะที่เดินได้เท่ากัน แต่หากมีถนนสายหลักและแม่น้ำอยู่ใกล้ๆ จำนวนของลูกค้าที่มาที่ร้านจริงๆ อาจน้อยลง ข้อที่ 3: การจำลอง ส่วนแบ่งการตลาดของการเปิดร้านคำนวณจากจำนวนลูกค้าที่มารวมกันต่อวัน ช่วงเวลาที่แออัด ที่ตั้งของร้านคู่แข่ง เป็นต้น ผลของการจำลองอาจปรากฎให้เห็นปัญหาต่างๆ เช่น อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นร้านที่ปรับตัวให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายใหม่ได้ จากประเด็นเหล่านี้ จำเป็นต้องพิจารณาว่าสถานที่นั้นนำไปสู่การเยี่ยมชมที่ร้านค้าจริงหรือไม่ Area Marketing GIS จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วในเวลาไม่นาน ตัวอย่างวิธีวิเคราะห์ที่ตั้งร้านค้า 1. สำรวจปริมาณตลาด สามารถตรวจสอบจำนวนผู้อยู่อาศัยภายในขอบเขตของแต่ละรัศมีได้อย่างง่ายดาย

ประเด็นที่ 2: ลักษณะภายนอกของร้านค้าเข้าง่ายหรือไม่?

ประเด็นที่สองที่คุณต้องตรวจสอบคือทางเข้าร้านเข้าไปง่ายและที่ตั้งหาเจอได้ง่ายหรือไม่ ลูกค้ามักจะจำได้เมื่อเห็นร้านจริง ดังนั้นควรมีลักษณะภายนอกที่ง่ายต่อการเข้าไปตรวจสอบให้แน่ใจว่าร้านของคุณเด่นสะดุดตาหรือไม่เมื่อเดินผ่านตามท้องถนน และลักษณะภายนอกดูน่าดึงดูดกลุ่มเป้าหมายของคุณหรือไม่
ตัวอย่างเช่น แม้ว่าร้านค้าจะตั้งอยู่ในทำเลที่ดีและขายสินค้าและบริการในราคาที่เหมาะสม ก็ยังยากที่จะดึงดูดลูกค้าใหม่ ถ้าลักษณะภายนอกของร้านทำให้ดูเข้าไปที่ร้านยากหรือไม่อยากเข้าร้าน

โดยทั่วไปร้านค้าที่มีลักษณะดังต่อไปนี้เข้าง่าย

  • ทางเข้ากว้าง
  • การออกแบบที่มองเห็นได้ง่ายโดยไม่ถูกรบกวนจากอาคารรอบข้าง
  • ความสะอาด
  • มองเห็นภายในร้านได้ง่าย

ประเด็นที่ 3: คอนเซ็ปต์ร้านตรงกับพื้นที่โดยรอบหรือไม่?

ประเด็นที่สามที่คุณต้องตรวจสอบคือคอนเซปต์ของร้านคุณเข้ากับพื้นที่โดยรอบหรือไม่เพื่อทำให้เป้าหมายของร้านค้าของคุณชัดเจน ควรคิดคอนเซ็ปต์เฉพาะเมื่อเปิดร้านของคุณ
ตัวอย่างเช่นรูปภาพด้านล่าง

  • ร้านอาหารที่เชี่ยวชาญด้านเมนูที่ทำจากชีส รวมถึงเครื่องเคียง, อาหารจานหลัก, และขนมหวาน
  • โรงเรียนกวดวิชาที่มีคลาสเรียนตัวต่อตัวสำหรับนักเรียนชั้นประถมที่ตั้งเป้าหมายในการสอบเข้าโรงเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลาย
  • ร้านอาหารที่มีวัตถุดิบและเครื่องปรุงนำเข้าให้เลือกมากมายซึ่งถูกใจทั้งคนรักอาหารและนักกิน

หากคุณเลือกคอนเซ็ปต์อย่างถี่ถ้วนตามประเภทธุรกิจของร้านค้าจะทำให้ชัดเจนขึ้นว่าคุณควรตรวจสอบอะไรเมื่อเลือกทำเลที่ตั้งเนื่องจากสามารถสำรวจอย่างเจาะจงตามจุดประสงค์ของคุณได้ จึงตัดสินได้ง่ายขึ้นว่าคอนเซ็ปต์เหมาะกับลักษณะพิเศษของท้องถิ่น (local color) หรือไม่ และเป็นทำเลที่ดีหรือไม่
และยังจำเป็นต้องตรวจสอบสถานที่และสภาพแวดล้อมรอบทำเลที่ตั้ง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีคู่แข่งที่มีคอนเซ็ปต์คล้ายกันในแหล่งการค้านั้น

เราจะปรับปรุงการตลาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อหาทำเลที่ดีได้อย่างไร?

เพื่อหาที่ตั้งร้านค้าที่มีศักยภาพที่ดี สิ่งสำคัญคือทำการตลาดในพื้นที่โดยรอบและวิเคราะห์โดยใช้ข้อมูล เราจะอธิบายวิธีปรับปรุงการตลาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการหาทำเลที่ดี

ศึกษาเส้นทางการเคลื่อนที่ไปยังร้านค้าและพื้นที่การค้า

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการตลาดด้านทำเลที่ตั้ง มาสำรวจพื้นที่การค้าของร้านค้าและเส้นทางการเคลื่อนที่ของลูกค้ากัน
อย่างแรกคุณต้องกำหนดว่าพื้นที่การค้าของคุณใหญ่ขนาดไหน ขั้นต่อไปเราจะตรวจสอบเส้นทางการเดินทางจากขนส่งสาธารณะและสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะในพื้นที่การค้าไปยังร้านค้า

“เส้นทางการเคลื่อนที่”หมายถึงเส้นทางที่ผู้คนเดินทางและกระแสที่ผู้คนเคลื่อนไหว หากมีเส้นทางที่สามารถดีงดูดผู้คนมากมายได้ก็กล่าวได้ว่าเป็นทำเลที่ได้เปรียบในแง่ของการดึงดูดลูกค้าเลือกพื้นที่การค้าของร้านค้าคร่าวๆ และกำหนดขอบเขตเฉพาะเจาะจงโดยคำนึงถึงสิ่งกีดขวางต่างๆ เช่น แม่น้ำและเส้นทางรถไฟซึ่งขัดขวางการเดินทางที่ราบรื่น เช่นเดียวกับร้านคู่แข่งที่มีความสามารถในการดึงดูดลูกค้าสูงเมื่อพื้นที่การค้าถูกกำหนดแล้ว คุณสามารถทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยตรวจสอบการคมนาคมโดยรอบที่ตั้ง, เส้นทางการเดินทางของผู้สัญจรผ่านไปมา,ปริมาณการจราจร, และคาดการณ์การมาที่ร้าน

วิเคราะห์ลักษณะเฉพาะของประชากรในพื้นที่การค้า

วิเคราะห์ลักษณะเฉพาะของประชากรในพื้นที่การค้า และยืนยันว่าอสังหาริมทรัพย์หรือพื้นที่นั้นเหมาะสมกับการเปิดร้านหรือไม่ซึ่งจะช่วยให้ทำการตลาดเกี่ยวกับที่ตั้งอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
หลังจากเลือกพื้นที่การค้าแล้ว สิ่งสำคัญคือตรวจสอบสัดส่วนประชากรเป้าหมายของร้านค้าโดยอ้างอิงจากข้อมูล เช่น ลักษณะเฉพาะและจำนวนประชากรของคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้น และอัตราการเติบโตในอนาคต
ไลฟ์สไตล์ของผู้คนและค่านิยมรวมถึงคุณค่าของเงินซึ่งวัดปริมาณเป็นข้อมูลได้ยาก สามารถตรวจสอบได้โดยสำรวจภาคสนามและฟังเรื่องราวของพวกเขาจริงๆ
ในการเปิดร้านให้ประสบความสำเร็จ วิเคราะห์พื้นที่การค้าอย่างรอบคอบและเข้าใจลักษณะเฉพาะของประชากรให้ถูกต้องมากที่สุด

ปรับปรุงการตลาดอย่างสม่ำเสมอ

อย่าลืมปรับปรุงการตลาดเกี่ยวกับที่ตั้งอย่างเป็นประจำ รวมถึงวิธีรวบรวมข้อมูล, ข้อมูลที่ได้รับมา และวิธีวิเคราะห์
ในเวลาเดียวกันสภาพแวดล้อมโดยรอบที่ตั้งยังคงเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง คอนเซ็ปต์อาจเปลี่ยนไปเมื่อดำเนินแผนการเปิดร้าน และเงื่อนไขของทำเลอาจปรากฏขึ้นใหม่ดังนั้นควรพิจาณาข้อมูลอย่างละเอียดหลายๆ ครั้งจนกว่าจะเปิดร้านจริง และควรปรับปรุงด้วยข้อมูลล่าสุดทุกครั้ง
อีกทั้งการทำการตลาดยังไม่สิ้นสุดแค่เมื่อเปิดร้านใหม่ แม้จะเปิดร้านได้แล้ว สิ่งสำคัญคือต้องปรับเปลี่ยนเนื้อหาของการส่งเสริมการขายของร้าน, สินค้าและบริการที่ให้บริการได้อย่างอิสระ โดยจับประเด็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงตามพื้นที่และอัปเดตเนื้อหาการวิเคราะห์

สรุป: ค้นหาทำเลที่ดีด้วยการตลาดที่มีประสิทธิภาพ

เมื่อเปิดร้านจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเลือกทำเลที่ตรงกับคอนเซ็ปต์ หากคอนเซ็ปต์และเงื่อนไขของทำเลไม่ตรงกันก็ยากที่จะดึงดูดความสนใจในการมาที่ร้านซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพในการดึงดูดลูกค้าลดลง
โดยทั่วไปทำเลที่ดีหมายถึง“พื้นที่ที่ลูกค้าเป้าหมายซึ่งตรงกับคอนเซ็ปต์ร้านรวมตัวกันอยู่โดยรอบ”การจะหาทำเลที่ดีที่เหมาะกับร้านค้าของคุณและประสบความสำเร็จในการเปิดร้าน คอนเซ็ปต์ของบริษัทต้องชัดเจน และในขณะเดียวกันก็ทำการตลาดบริเวณโดยรอบและทำเลที่ตั้ง
แน่นอนว่าลักษณะภายนอกของอสังหาริมทรัพย์ก็เป็นปัจจัยหลักในการเลือกร้านค้า ดังนั้นศึกษาให้รอบด้านเพื่อเลือกทำเลที่เหมาะสมที่สุด เพื่อทำการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ ตรวจสอบสภาพการจราจรจากพื้นที่การค้าที่กำหนดไปยังร้านค้า,คาดการณ์การเข้ามาที่ร้าน, วิเคราะห์องค์ประกอบประชากร

นอกจากนี้เนื่องจากลักษณะเฉพาะของพื้นที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อย่าลืมอัปเดตข้อมูลแม้จะหาทำเลที่ดีและเปิดร้านแล้วก็ตาม และใช้ข้อมูล่าสุดในการบริหารจัดการ

Copied title and URL