วิธีที่ทำให้การสำรวจหาทำเลที่ตั้ง มีประสิทธิภาพที่สุดมีอะไรบ้าง? ประเด็นสำคัญหลักๆ ที่ต้องตรวจสอบ!

การวิเคราะห์ที่ตั้งร้านค้า
This article can be read in about 14 minutes.

การหาทำเลที่ตั้งเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการในการเปิดร้านค้าหรือตัดสินใจว่าจะเปิดร้านใหม่ในพื้นที่ไหนที่ตั้งของร้านเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลสำคัญอย่างมากต่อการลงทุนทำธุรกิจ “ทำเลที่ตั้งที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญทำให้การลงทุนทำธุรกิจประสบความสำเร็จ” ในบทความนี้ เราจะอธิบายว่าควรทำการสำรวจแบบไหน เพื่อให้สามารถค้นหาทำเลที่ตั้งที่จะช่วยเพิ่มยอดขายให้ร้านของคุณได้ วิธีดำเนินการสำรวจทำเลที่ตั้งอย่างมีประสิทธิภาพ และประเด็นสำคัญที่ควรคำนึงถึง

  1. วัตถุประสงค์และความสำคัญของการสำรวจหาทำเลที่ตั้งร้าน
    1. วัตถุประสงค์ของการสำรวจพื้นที่ คือ เพื่อหาทำเลที่ตั้งที่สามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้
    2. “ทำเลที่ตั้ง” เป็นปัจจัยที่ส่งผลทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ถึง 70%
  2. ประเด็นสำคัญที่ควรคำนึงถึงในการสำรวจหาทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมคืออะไร
    1. เส้นทางการสัญจรและการเข้าถึง
    2. สภาพแวดล้อมโดยรอบและร้านคู่แข่งบริเวณใกล้เคียง
    3. ปริมาณการสัญจรและทัศนวิสัย
  3. วิธีสำรวจทำเลที่ตั้งอย่างมีประสิทธิภาพ
    1. การสำรวจหน้าร้านและสำรวจข้อมูลโดยการสัมภาษณ์
    2. การใช้ประโยชน์จากเครื่องมือทางการตลาด
  4. สรุป: การค้นหาทำเลที่ตั้งที่ดีที่สุดในการตั้งร้านค้าของคุณ

วัตถุประสงค์และความสำคัญของการสำรวจหาทำเลที่ตั้งร้าน

การหาทำเลที่ตั้งทางธุรกิจ หมายถึงกระบวนการในการเลือกและตัดสินใจเลือกสถานที่ที่เหมาะสมในการดำเนินธุรกิจคำว่า “สถานที่” เป็นคำที่หมายถึง ที่ตั้งหรือตำแหน่ง ความหมายในทางธุรกิจนั้น คือ “สถานที่ตั้งร้านหรือที่ตั้งสำนักงาน”

การสำรวจสถานที่ คือ การค้นหาทำเลที่เหมาะสมคุ้มค่าในการลงทุนที่จะเปิดร้านใหม่จะต้องดำเนินการสำรวจพื้นที่เพื่อให้มีความมั่นใจว่าได้เลือกสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับร้านค้าแล้ว“วัตถุประสงค์หลักของการสำรวจหาทำเลที่ตั้งคืออะไร?” เรามาเรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุประสงค์พื้นฐานต่างๆและความสำคัญของการสำรวจก่อนที่จะดำเนินการลงสนามสำรวจพื้นที่จริง

วัตถุประสงค์ของการสำรวจพื้นที่ คือ เพื่อหาทำเลที่ตั้งที่สามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้

วัตถุประสงค์ของการสำรวจพื้นที่ คือ เพื่อหาทำเลที่ตั้งที่สามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้เมื่อต้องการที่จะเปิดร้านใหม่ มีปัจจัยมากมายที่ต้องพิจารณา ขนาด ต้นทุน ค่าใช้จ่ายอื่นๆ บรรยากาศสภาพแวดล้อม แนวคิด และปัจจัยอื่นๆ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในการพิจารณาเปรียบเทียบ
อย่างไรก็ตามประเด็นสำคัญที่สุดของการสำรวจหาพื้นที่ก็คือ “ทำเลที่ตั้งสามารถดึงดูดลูกค้าได้หรือไม่?
ไม่ว่าแนวคิดจะดี หรือพื้นที่ของร้านจะกว้างแค่ไหน และสินค้าที่นำเสนอมีคุณภาพเพียงใด ลูกค้าก็จะไม่เข้าร้านหากเปิดหรือตั้งร้านในพื้นที่ที่ไม่มีคนสัญจร

“ทำเลที่ตั้ง” เป็นปัจจัยที่ส่งผลทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ถึง 70%

ในการศึกษาหาพื้นที่เพื่อเลือกทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพ สิ่งสำคัญ คือต้องวิเคราะห์ทำเลที่ตั้งอย่างเป็นรูปธรรมและมีตัวเลขชีวัดเพื่อพิจารณาว่า “สามารถดึงดูดลูกค้าได้กี่ราย”

ประเด็นสำคัญที่ควรคำนึงถึงในการสำรวจหาทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมคืออะไร

ในการสำรวจพื้นที่เพื่อหาทำเลที่ตั้งจะต้องตรวจสอบพื้นที่รอบๆ ในพื้นที่เป้าหมายที่ต้องการตั้งร้านค้าด้วย แต่ก็ไม่สามารถรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพียงแค่ดูพื้นที่รอบๆ บริเวณพื้นที่เป้าหมายที่ต้องการตั้งร้าน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการสำรวจหาทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม และสามารถตัดสินใจได้ว่าพื้นที่เป้าหมายนั้น “มีความสามารถในการดึงดูดลูกค้า” ควรกำหนด รายการต่อไปนี้ไว้ในการสำรวจเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ได้มีความแม่นยำสูงและและพื้นที่เป้าหมายนั้นมีความคุ้มค่าในการลงทุน

เส้นทางการสัญจรและการเข้าถึง

เส้นทางการสัญจร คือ“เส้นทางที่เชื่อมต่อกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้”สิ่งอำนวยความสะดวกที่ดึงดูดลูกค้าเป็นคำศัพท์ทั่วไปสำหรับสถานที่ที่ผู้คนมักจะรวมตัวกันได้ง่าย เช่น อาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าที่ลดราคา เป็นต้น ขนาดของที่ตั้งร้าน เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ดึงดูดลูกค้าในบริเวณใกล้เคียงที่ควรตรวจสอบในระหว่างการสำรวจด้วย
หากร้านที่จะเปิดใหม่อยู่ในทำเลที่ตั้งหรือพื้นที่ที่เรียกว่า “ใกล้สถานีในตัวเมือง” จะส่งผลต่อ
ยอดขายอย่างมากหากทำเลที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองและอยู่ในเส้นทางที่มีการสัญจรที่ดึงดูดลูกค้า และหาก ตำแหน่งที่ตั้งอยู่นอกเส้นทางที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการสํารวจพื้นที่นั้น ขั้นแรกให้ตรวจสอบหาพื้นที่ที่อยู่ในแนวเส้นทางการสัญจรที่มีระบบรถขนส่งสาธารณะเข้าถึง และตรวจสอบให้แน่ใจว่าการสำรวจพื้นที่เป้าหมายหรือทำเลที่ตั้งนั้นอยู่บนเส้นทางการสัญจรเขตตัวเมือง

ในขณะเดียวกัน ให้ตรวจสอบการเข้าถึงที่ดี ซึ่ง การเข้าถึงที่ดี หมายถึง“ความง่ายและความสะดวกในการเดินทาง” หรือ “การเข้าถึงร้านได้ง่ายเพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวก”ตรวจสอบจำนวนชั้นของร้านค้าและความพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น บันไดเลื่อน และลิฟต์ ซึ่งอาจส่งผลต่อจำนวนลูกค้า หากทางเข้าร้านแคบหรือเส้นทางไปที่ร้านซับซ้อนจะทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความไม่สะดวกสบายในการเข้าถึงร้าน
วางแผนคาดการณ์และสำรวจจากมุมมองของลูกค้า ว่าลูกค้าจะรู้สึกอึดอัดหรือไม่ เมื่อมาที่ร้าน หากตั้งหรือเปิดร้านในพื้นที่นี้

สภาพแวดล้อมโดยรอบและร้านคู่แข่งบริเวณใกล้เคียง

ในการสำรวจหาทำเลที่ตั้ง สิ่งสำคัญ คือต้องตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบและคู่แข่งด้วย
ตัวอย่างเช่น หากแนวคิดของคุณคือ “ต้องการเปิดร้านอาหารที่มุ่งเป้าไปที่ผู้หญิงในช่วงอายุ 20 และ 30 ปี” คุณอาจไม่สามารถดึงดูดลูกค้าได้จำนวนมากหากร้านอาหารของคุณตั้งอยู่ใกลใจกลางเมืองหรือห่างไกลจากย่านบันเทิงที่พลุกพล่านซึ่งไม่มีคนเดินผ่านและไม่ใช่ พื้นที่ปลอดภัย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าร้านอาหารของคุณไม่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ได้เอื้อความสะดวกสำหรับเป้าหมายของคุณ
ให้ตรวจสอบด้วยว่ามีร้านคู่แข่งในพื้นที่ที่คุณวางแผนจะเปิดร้านใหม่หรือไม่ หากมีร้านค้าคู่แข่ง ให้ตรวจสอบขนาดของร้านและยอดขาย เพื่อวิเคราะห์ว่าจะส่งผลต่อร้านหรือธุรกิจของคุณหรือไม่

ปริมาณการสัญจรและทัศนวิสัย

แม้จะไม่สามารถยืนยัน 100%ได้ว่าความสามารถในการดึงดูดลูกค้าก็มักจะขึ้นอยู่กับปริมาณการสัญจรและจำนวนประชากรเนื่องจาก เมื่อมองไปจากมุมมองถนนที่หันหน้าเข้าหาร้าน หากมีคน 100 คนผ่านไปในหนึ่งชั่วโมงกับมีคนเพียง 10 คนที่ผ่านในหนึ่งชั่วโมง พารามิเตอร์การชี้วัดก็จะแตกต่างกัน เมื่อดำเนินการสำรวจหาทำเลที่ตั้ง ให้ตรวจสอบปริมาณการสัญจรบนถนนโดยแบ่งเงื่อนไขเวลาในการชี้วัดเป็น 1 วัน, ช่วงวันในสัปดาห์, และช่วงเวลาที่ทำการวัดสมาคมการค้าและอุตสาหกรรมบางแห่ง อาจมีข้อมูลที่เผยแพร่สู่สาธารณะ ซึ่งสามารถใช้เพื่อดูข้อมูลเชิงลึกที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อสำรวจการสัญจรในพื้นที่เป้าหมายแล้วแนะนำให้ตรวจสอบทัศนวิสัยด้วย เช่น เดินไปตามทิศทางของผู้ที่เดินผ่านไปมาจริงๆ ตรวจสอบจากมุมมองของกลุ่มเป้าหมาย ว่าพวกเขาสามารถมองเห็นสถานที่ที่คุณต้องการตั้งร้านได้ไกลแค่ไหน และมีสิ่งกีดขวางใด ที่ขัดขวางการมองเห็นร้านของคุณหรือไม่

วิธีสำรวจทำเลที่ตั้งอย่างมีประสิทธิภาพ

การสำรวจหาทำเลที่ตั้งจำเป็นต้องมีการเดินทางไปสถานที่จริง ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควรจึงต้องวางแผนบริหารเวลาให้ดี แน่นอนว่ายังมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าแรงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพื่อลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการสำรวจ สิ่งสำคัญคือต้องวางแผนล่วงหน้าว่าจะใช้วิธีการใดในการสำรวจ

ต่อไปนี้ เราจะอธิบายวิธีการสำรวจหาทำเลที่ตั้งอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณเห็นภาพการดำเนินงานจริงได้

การสำรวจหน้าร้านและสำรวจข้อมูลโดยการสัมภาษณ์

เมื่อลงพื้นที่สำรวจจริง ให้ทำการสำรวจทั้งหน้าร้านและสำรวจข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ด้วย จะสามารถตรวจสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพว่า“ทำเลที่ตั้งนั้นอยู่ในพื้นที่การค้าที่เหมาะสมกับร้านใหม่ของบริษัทหรือไม่”
การสำรวจหน้าร้าน คือ การไปอยู่ที่หน้าร้านจริง วางแผนและสังเกตสถานการณ์การสัญจรของผู้คนที่ผ่านไปมาจริงๆ ตรวจสอบจำนวนและลักษณะของผู้สัญจรผ่านไปมา การสัญจรโดยรวมของผู้คน และลักษณะอื่นๆ หลายๆ ครั้งตามช่วงวัน ช่วงสัปดาห์ ฤดูกาล และช่วงเวลาของวัน
สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตร้านค้าธุรกิจประเภทเดียวกันในบริเวณใกล้เคียงและตรวจสอบแนวโน้มการบริโภค เช่น “ใครกำลังซื้อ” และ “กำลังซื้ออะไร”
เมื่อตรวจสอบแนวโน้มการบริโภคในร้านค้าโดยรอบ ลองสำรวจโดยการสอบถามพนักงาน เช่น “สินค้าตัวไหนขายดี” และ “ช่วงเวลาไหนของวันและช่วงไหนของปีที่คึกคักที่สุด?
เนื่องจากไม่มี “ข้อมูลประวัติการขายในช่วงเวลาที่ผ่านมา” สำหรับร้านค้าใหม่หากไม่ทำการสำรวจโดยละเอียดถูกต้องก็จะไม่สามารถเข้าใจช่วงเวลาที่มีผู้คนหนาแน่นในพื้นที่ได้และอาจทำให้เกิดการขาดทุนและเสียโอกาสได้การสอบถามร้านค้าโดยรอบเกี่ยวกับช่วงเวลาและฤดูกาลไหนที่ขายดีจากร้านค้าใกล้เคียงจะช่วยให้ปรับเวลาทำการและกำหนดวันหยุดได้ง่ายขึ้น

การใช้ประโยชน์จากเครื่องมือทางการตลาด

บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการตลาดเชิงพื้นที่ มีเครื่องมือที่สามารถดึงข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วจากข้อมูล POS ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น นอกเหนือจากข้อมูลทางสถิติที่จัดทำโดยหน่วยงานรัฐบาลระดับประเทศและหน่วยงานระดับท้องถิ่น ซึ่งการใช้เครื่องมือดังกล่าว จะช่วยประหยัดเวลาอย่างมากในการเก็บรวบรวมข้อมูล
การบริการงานด้านการตลาดเชิงพื้นที่ GIS ยังทำงานร่วมกับ Google Street Viewได้ด้วย เครื่องมือนี้ช่วยให้เห็นมุมมองจากบนถนนและสภาพแวดล้อมบริเวณรอบๆ โดยไม่ต้องไปสถานที่จริง ดังนั้นจึงควรทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมโดยทั่วไปก่อนที่จะดำเนินการลงสำรวจพื้นที่จริง
สิ่งสำคัญ คือ ต้องเข้าใจว่าข้อมูลอาจอาจมีความคลาดเคลื่อนไม่ตรงกันระหว่างข้อมูลล่าสุดที่มีอยู่ก่อนแล้วกับข้อมูลที่ทำการสำรวจใหม่ นอกจากการวิเคราะห์ทำเลที่ตั้งจากเครื่องมือทางการตลาดแล้วต้องดำเนินการสำรวจพื้นที่จริงด้วย เพื่อยืนยันว่าผลการวิเคราะห์เป็นไปตามเป้าหมาย

สรุป: การค้นหาทำเลที่ตั้งที่ดีที่สุดในการตั้งร้านค้าของคุณ

หากคุณสามารถค้นหาสถานที่หรือทำเลที่ตั้งที่เหมาะกับแนวคิดของร้านค้าเพื่อนำเสนอสินค้าของคุณ ด้วยการสำรวจหาทำเลที่ตั้ง ความน่าจะเป็นที่ลูกค้าจะเข้ามาร้านค้าของคุณจะเพิ่มมากขึ้นการเป็นที่รู้จักของลูกค้าถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การซื้อสินค้าและใช้บริการร้านค้าอย่างต่อเนื่องหากคุณทำการสำรวจทำเลที่ตั้งอย่างละเอียด เข้าใจข้อดีข้อเสียของทำเลที่ตั้ง ณ สถานที่นั้น จากนั้นให้เริ่มพิจารณาเปรียบเทียบ ค้นหาตำแหน่งที่ต้องการเปิดร้านใหม่ที่เหมาะสมที่สุด “จงหาทำเลที่ตั้งที่จะสามารถแสดงจุดแข็งของร้านค้าคุณได้ 100% หรือมากกว่า”

Copied title and URL