【วิธีวิเคราะห์การตลาดเชิงพื้นที่ 】มาดูขั้นตอนพื้นฐานที่จะนำไปสู่ความสำเร็จกัน

Area Marketing
This article can be read in about 8 minutes.

“การตลาดเชิงพื้นที่” เป็นกิจกรรมทางการตลาดที่ใช้กลยุทธ์และวิธีที่เหมาะสมกับแต่ละภูมิภาคในการขายสินค้าและบริการ

การตลาดเชิงพื้นที่ มีความสำคัญในการจัดการร้านค้า เนื่องจากมีวิธีการวิเคราะห์ที่เป็นเอกลักษณ์ อาจเป็นเรื่องยากในการดำเนินการในครั้งแรก อย่างไรก็ตาม หากคุณเปิดร้านโดยไม่ได้ศึกษาพื้นที่นั้นอย่างเพียงพอ อาจไม่มีลูกค้ามาเยี่ยมชมร้านค้าได้ และหากเริ่มดำเนินการไปแล้ว คุณอาจล้มเหลวในที่สุด

เพื่อที่จะดำเนินงานด้านการตลาดเชิงพื้นที่ไห้สำเร็จ ก่อนอื่นให้คำนึงถึงวิธีการวิเคราะห์สี่ประเภทและขั้นตอนพื้นฐานที่จะอธิบายไว้ในบทความนี้ด้วยเหตุนี้เราจึงดำเนินการทางการตลาดโดยคำนึงถึงเรื่องสำคัญหลักๆ ในแต่ละขั้นตอน

ให้นำความรู้พื้นฐานที่คุณได้เรียนรู้ในบทความนี้ไปประยุกต์ใช้กับการวิเคราะห์การทำงานด้านการตลาดเชิงพื้นที่เพื่อให้นำไปสู่ความสำเร็จของธุรกิจ หากคุณไม่ต้องการล้มเหลวเมื่อเปิดร้านค้าจริง โปรดอ่านบทความนี้

  1. การวิเคราะห์การตลาดเชิงพื้นที่ สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท:
    1. การวิเคราะห์การเปิด/ปิดร้าน
    2. การคาดการณ์การขาย/การวิเคราะห์การคาดการณ์ความต้องการ
    3. การวิเคราะห์การส่งเสริมการขาย
    4. การวิเคราะห์ลูกค้า
  2. ขั้นตอนพื้นฐานของการวิเคราะห์การตลาดเชิงพื้นที่
    1. ขั้นตอนที่ 1: การกำหนดข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ตั้ง
    2. ขั้นตอนที่ 2: การกำหนดระยะทางของพื้นที่เชิงพาณิชย์และพื้นที่ที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้
    3. ขั้นตอนที่ 3: ทำความเข้าใจลักษณะอุปสงค์
    4. ขั้นตอนที่ 4: การวิเคราะห์คู่แข่ง
    5. ขั้นตอนที่ 5: การคาดการณ์ยอดขาย/การคาดการณ์ความต้องการ
    6. ขั้นตอนที่ 6: แนวทาง/กิจกรรมส่งเสริมการขาย
    7. ขั้นตอนที่ 7: เรื่องที่ต้องสังเกต
  3. กุญแจสำคัญในการตลาดเชิงพื้นที่เพื่อให้ประสบความสำเร็จคืออะไร?
    1. มาตรการที่ 1: กำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมาย ทำให้ชัดเจน และแบ่งปันข้อมูลตลอดเวลา
    2. จุดที่ 2: วางแผนตัดสินใจล่วงหน้าว่าคุณจะวิเคราะห์อะไรและมากน้อยเพียงใด
    3. จุดที่ 3: การวิเคราะห์จำนวนกลุ่มเป้าหมายและประสบการณ์การวิเคราะห์รูปแบบต่างๆ
  4. สรุป: ขั้นตอนและประเด็นสำคัญของการตลาดเชิงพื้นที่ที่นำไปสู่ความสำเร็จ

การวิเคราะห์การตลาดเชิงพื้นที่ สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท:

ในด้านการตลาดเชิงพื้นที่ จงทำการวิเคราะห์ที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ รวมถึงการวิเคราะห์ด้านพื้นที่ทางภูมิภาคเฉพาะ การวิเคราะห์ลูกค้า และการวิเคราะห์การคาดการณ์ยอดขายเมื่อเปิดร้านค้าในที่นี้ เราจะอธิบายการวิเคราะห์สี่ประเภทหลักที่มักใช้ในการตลาดเชิงพื้นที่

การวิเคราะห์การเปิด/ปิดร้าน

“การวิเคราะห์การเปิด/ปิดร้านค้า”เป็นวิธีการวิเคราะห์การจัดระเบียบข้อมูลที่จำเป็นในการตัดสินใจว่าจะเปิดหรือปิดร้านค้าเป็นระบุเป็นพื้นที่เฉพาะในภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่งการวิเคราะห์การเปิดร้านบางครั้งเรียกว่า “การวิจัยตำแหน่ง” หรือ “การวิเคราะห์ตำแหน่งการเลือกที่ตั้งร้าน” การวิเคราะห์การปิดร้านค้าเป็นวิธีการวิเคราะห์ที่ระบุร้านค้าที่คาดว่าจะไม่สามารทำยอดขายและกำไรเพิ่มขึ้นมีแต่ลดลงและกำหนดว่าจะดำเนินการต่อหรือปิดร้านค้า

เนื่องจากลักษณะเฉพาะของภูมิภาคสามารถเข้าใจได้ง่ายจากข้อมูลทางสถิติ ฯลฯ ฟังก์ชัน GIS (ระบบข้อมูลทางภูมิศาสตร์) จึงถูกนำมาประยุกต์ใช้มากขึ้นในการวิเคราะห์การเปิดร้านและการปิดร้านในงานด้านการตลาดเชิงพื้นที่

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราสามารถตัดสินได้ว่าโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการเปิดร้านใหม่ และไม่ว่าจะดำเนินการต่อหรือปิดตัวจากร้านค้าที่มีอยู่โดยพิจารณาจากข้อมูล เช่น ลักษณะทางภูมิศาสตร์ เครือข่ายการขนส่ง และโครงสร้างประชากรของพื้นที่การค้า หรือพื้นที่ที่คาดหวังลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย

การคาดการณ์การขาย/การวิเคราะห์การคาดการณ์ความต้องการ

“การวิเคราะห์การคาดการณ์ยอดขาย/การวิเคราะห์คาดการณ์ความต้องการ”เป็นวิธีการวิเคราะห์ที่ใช้ข้อมูลการขายในอดีตเป็นข้อมูลอ้างอิงในการคาดการณ์แนวโน้มการขายในอนาคตและความต้องการของตลาด

ในด้านการตลาดเชิงพื้นที่ การคาดการณ์ยอดขายและความต้องการจะได้รับการวิเคราะห์ โดยใช้แบบจำลอง Huffเป็นวิธีการที่คาดการณ์ถึลความน่าจะเป็นที่ลูกค้าจะซื้อสินค้าที่ร้านค้าของคุณ โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น พื้นที่ชั้นที่ขายและสถานที่ตั้งที่สัมพันธ์กับร้านค้าคู่แข่ง

ข้อดีของการคาดการณ์ยอดขาย คือ คุณสามารถตรวจสอบปริมาณการผลิตของผลิตภัณฑ์และจำนวนสินค้าคงคลัง ลดค่าใช้จ่ายที่สูญเปล่า และทำให้การจัดการร้านค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น

การวิเคราะห์การส่งเสริมการขาย

“การวิเคราะห์การส่งเสริมการขาย”เป็นวิธีการวิเคราะห์ที่ใช้ในการส่งเสริมการขายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการรับรู้ของร้านค้า การดึงดูดลูกค้า การเพิ่มยอดขาย ฯลฯ

ขั้นแรก ทำความเข้าใจอัตราที่คาดว่าจะได้ลูกค้าใหม่ในปัจจุบัน จากการใช้ข้อมูลลูกค้าที่ได้จัดเก็บไว้จากผลการวิเคราะห์ โดยเปลี่ยนมาใช้วิธีการส่งเสริมการขายที่คุ้มค่ามากขึ้น เช่น การเปลี่ยนวิธีการส่งเสริมการขาย การลดต้นทุน และการลงทุนในสื่อโฆษณาที่มีประสิทธิภาพสูง

การตรวจสอบประสิทธิผล ของการส่งเสริมการขาย มีความสำคัญนการวิเคราะห์การส่งเสริมการขายเช่นกันจำเป็นต้องรวมวิธีการติดตามการตอบรับของกลุ่มเป้าหมายที่รับรู้สินค้าจากการโฆษณา เช่น โดยใช้แบบสำรวจและโฆษณาทางอินเทอร์เน็ต

การวิเคราะห์ลูกค้า

“การวิเคราะห์ลูกค้า”ในด้านการตลาดหมายถึงการวิจัยและวิเคราะห์คุณลักษณะ ประวัติการซื้อ ลักษณะภูมิภาคท้องถิ่น ฯลฯ ของลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทคุณ

เราสามารถเปรียบเทียบข้อมูลลูกค้าปัจจุบันที่ได้รับจากข้อมูลสมาชิกพอยต์การ์ดกับข้อมูลทางสถิติเพื่อพิจารณาแนวโน้มของลูกค้าในระดับภูมิภาค

วัตถุประสงค์ของการวิเคราะห์ลูกค้า คือ เพื่อเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า เพิ่มอัตราการซื้อซ้ำ และได้ลูกค้าใหม่จากการวิเคราะห์ลูกค้า คุณสามารถค้นพบส่วนแบ่งลูกค้าในแต่ละพื้นที่ จำนวนผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า และกลยุทธ์สำคัญที่จะนำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่นั้น

ขั้นตอนพื้นฐานของการวิเคราะห์การตลาดเชิงพื้นที่

เราจะอธิบายขั้นตอนพื้นฐานสำหรับผู้ที่กำลังจะเผชิญกับความท้าทายของการตลาดเชิงพื้นที่ มาดูแนวทางแต่ละขั้นตอนเพื่อทำความเข้าใจข้อมูลที่สำคัญในการวิเคราะห์ เช่น ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของพื้นที่ธุรกิจ การมีอยู่ของคู่แข่ง และความต้องการของลูกค้า

อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนนี้เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้นขั้นตอนจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และลักษณะของการตลาดในพื้นที่นั้นๆเมื่อคุณมีแนวคิดเกี่ยวกับวิธีการดำเนินงานแล้ว ให้ลองทำตามขั้นตอนตามลำดับที่เหมาะสมกับร้านค้าของคุณ

ขั้นตอนที่ 1: การกำหนดข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ตั้ง

ขั้นแรกตรวจสอบว่าข้อมูลสถานที่ตั้งที่คุณต้องการทำธุรกิจตรงตามมาตรฐานของบริษัทคุณหรือไม่
เมื่อดำเนินการด้าน GIS การแสดงชื่อร้านค้าและข้อมูลการขายสามารถดำเนินการจัดการใน Excel หรือสเปรดชีตที่นำข้อมูลมาแสดงบนแผนที่ช่วยให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นด้วยภาพ หากเป็นไปได้เราขอแนะนำให้คุณนำเข้าข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้าคู่แข่งในขั้นตอนนี้ด้วย

เราพิจารณาข้อมูลคุณสมบัติของสถานที่ตั้งและประเมินเงื่อนไขในการเปิดร้าน โดยคำนึงถึงอุปสรรคทางภูมิศาสตร์และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่การค้า เช่น ภูเขาและแม่น้ำ

ขั้นตอนที่ 2: การกำหนดระยะทางของพื้นที่เชิงพาณิชย์และพื้นที่ที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้

หลังจากนำเข้าข้อมูลตำแหน่งของร้านค้าแล้วให้กำหนดระยะทางเชิงพาณิชย์และพื้นที่ที่สามารถดึงดูดลูกค้าตามประเภทธุรกิจและวิธีการเดินทางที่อำนวยความสะดวกให้ผู้อยู่อาศัยรอบๆ ร้าน เพื่อที่จะสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย

การตัดสินใจเลือกวิธีการเดินทาง ควรพิจารณาจากจำนวนคนที่มีรถยนต์ จำนวนคนที่มีรถจักรยานยนต์และการสัญจรของผู้คนในพื้นที่

ช่วงที่คุณสามารถดึงดูดลูกค้าได้จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวิธีการเดินทางของกลุ่มเป้าหมาย ดังนั้น อย่าลืมทำความเข้าใจพื้นที่การค้าหลักและรองของคุณ

ตัวอย่าง

  • พื้นที่ธุรกิจหลัก: สามารเดินโดยใช้เวลา 10 ถึง 15 นาที (ในระยะทาง 800 เมตร – 1.2 กิโลเมตร.)
  • พื้นที่ธุรกิจรอง: ใช้เวลาเดินทาง 15 นาที โดยจักรยาน และ 15 นาทีโดยรถยนต์ (ระยะทาง 3-10 กิโลเมตร)

ข้างต้นนี้เป็นตัวอย่างของการกำหนดพื้นที่การค้า แต่ด้วยการกำหนดพื้นที่การค้านี้ จะเห็นได้ว่า กิจกรรมส่งเสริมการขายและการวิเคราะห์การแข่งขันในพื้นที่ว่าพื้นที่ไหนควรดำเนินการลงทุนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากับธุรกิจของคุณ และสามารถวางแผนให้เหมาะสมกับพื้นที่ท้องถิ่นนั้นๆ (ปรับผลิตภัณฑ์และบริการให้เหมาะสมกับภูมิภาค) ซึ่งทำให้สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของคุณ

ขั้นตอนที่ 3: ทำความเข้าใจลักษณะอุปสงค์

เพื่อทำความเข้าใจคุณลักษณะของอุปสงค์เราใช้ข้อมูลทางสถิติและข้อมูลโดยประมาณสำหรับแต่ละพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจว่าผู้คนจำนวนมากอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีคุณลักษณะประเภทใดและพวกเขามีความต้องการสินค้าประเภทใด

หากคุณไม่มีเงื่อนไขในการวิเคราะห์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายของคุณ เราขอแนะนำให้ใช้ข้อมูลคลัสเตอร์หรือกลุ่มการกระจุกตัวที่ได้รับการจำแนกออกเป็นหลายลักษณะ

ขั้นตอนที่ 4: การวิเคราะห์คู่แข่ง

หลังจากทำความเข้าใจลักษณะเฉพาะของภูมิภาคแล้ว ให้นำเข้าข้อมูลสถานที่และข้อมูลร้านค้าของร้านค้าคู่แข่ง และตรวจสอบขอบเขตที่พื้นที่การค้าทับซ้อนกัน (การแข่งขันในตลาดเดียวกัน)

หากพื้นที่ธุรกิจของคุณทับซ้อนกันอย่างมาก เป็นเรื่องยากที่จะชนะในการสู้เพื่อดึงดูดลูกค้า เว้นแต่คุณจะมีปัจจัยที่แข็งแกร่งในการดึงดูดลูกค้ามากกว่าคู่แข่งของคุณ หากคุณมี
ข้อมูลตำแหน่งอยู่แล้ว คุณสามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคที่อาจสนใจร้านค้าคู่แข่งได้ด้วย

ขั้นตอนที่ 5: การคาดการณ์ยอดขาย/การคาดการณ์ความต้องการ

ขั้นตอนต่อไป จะเป็นการคาดการณ์ยอดขายและการคาดการณ์ความต้องการของตลาด

หากคุณได้เปิดร้านค้าไปแล้วและเป็นร้านค้าแรกของคุณ คุณสามารถใช้ข้อมูลจากร้านค้าที่มีอยู่นี้ได้หากร้านค้าใหม่มีพื้นที่การค้าคล้ายกับร้านที่มีอยู่เดิม คุณสามารถเข้าใจแนวโน้มการขายผ่านการวิเคราะห์รูปแบบที่คล้ายคลึงกัน

สำหรับการคาดการณ์ยอดขายและความต้องการของผู้บริโภคขอแนะนำให้ใช้การวิเคราะห์แบบจำลอง Hough สำหรับร้านค้าที่มีการแข่งขันสูง เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณและการวิเคราะห์แบบจำลอง Hough สามารถใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้เช่นกัน

ขั้นตอนที่ 6: แนวทาง/กิจกรรมส่งเสริมการขาย

เมื่อคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์การเปิดร้านและการคาดการณ์ยอดขาย วิเคราะห์ความต้องการเสร็จสมบูรณ์ เราจะดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น การแจกใบปลิว การส่งอีเมล์และการโฆษณาทางเว็บไปยังกลุ่มคนมีโอกาสที่จะเป็นลูกค้าในบริเวณใกล้เคียงกับร้านค้า

แผนการส่งเสริมการขายได้รับการพัฒนาโดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น จำนวนลูกค้าที่สามารถดึงดูดได้ภายในพื้นที่ และระดับความแตกต่างระหว่างจำนวนลูกค้าที่คาดหวังกับจำนวนการเข้าชมร้านค้าจริง กิจกรรมส่งเสริมการขายโดยใช้การโฆษณาออนไลน์สามารถตรวจสอบประสิทธิผลได้ และกลยุทธ์ PDCA การวางแผน การลงมือทำ การตรวสอบ การดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น ก็ทำได้ง่าย ดังนั้น ยิ่งทำซ้ำบ่อยๆ ผลลัพธ์ก็จะยิ่งแม่นยำมากขึ้น

กิจกรรมส่งเสริมการขายที่เหมาะกับกลุ่มตลาดเป้าหมายเป็นกุญแจสำคัญ

แม้ว่ากิจกรรมส่งเสริมการขายออนไลน์จะมีข้อได้เปรียบ แต่สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือวิธีการส่งเสริมการขายที่เหมาะสมจะมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอายุของผู้ใช้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นๆ

ตัวอย่างเช่น มาตรการออนไลน์โดยใช้ สื่อออนไลน์และเว็บมีเดียซึ่งมีประสิทธิภาพในพื้นที่การค้าที่มีคนรุ่นใหม่อาศัยอยู่จำนวนมาก ในขณะที่การส่งเสริมการขายแบบออฟไลน์ เช่น การแจกใบปลิวนั้นมีประสิทธิภาพในพื้นที่ค้าขายที่มีผู้สูงอายุอาศัยออยู่เป็นจำนวนมากซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกำหนดและปรับใช้กลยุทธ์การส่งเสริมการขายตามคุณลักษณะของผู้ที่อยู่อาศัย ณ พื้นที่นั้นและสื่อโฆษณาที่กลุ่มเป้าหมายเลือกสนใจ

ขั้นตอนที่ 7: เรื่องที่ต้องสังเกต

สุดท้ายนี้ เราจะสังเกตเปอร์เซ็นต์ของความสำเร็จต่อเป้าหมายสิ่งที่สังเกต ได้แก่ ความแตกต่างระหว่างยอดขายที่คาดการณ์ไว้และยอดขายจริง จำนวนลูกค้าที่ดึงดูดได้ แบ่งเป็นลูกค้าของผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่การค้า และอัตราการตอบสนองต่อสื่อโฆษณาส่งเสริมการขาย

หากสังเกตเห็นถึงการเบี่ยงเบนไปจากเป้าหมายมาก ก็สามารถกำหนดมาตรการใหม่เพื่อการดึงดูดลูกค้าที่ได้ผลมากกว่ามาตรการเดิมและสามารถใช้สำหรับการวางแผนผลิตภัณฑ์ได้ หากมีร้านค้าอยู่แล้ว การวิเคราะห์รูปแบบที่คล้ายกันจะสามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้

ยิ่งมีปัจจัยในการวิเคราะห์มาก เช่น จำนวนที่นั่งและพื้นที่ของร้าน เป็นต้น การวิเคราะห์ก็จะยิ่งแม่นยำมากขึ้นเท่านั้นในทางกลับกัน ต้องใช้เวลามากขึ้น ดังนั้นจึงสำคัญที่จะต้องระบุข้อแตกต่าง กำหนดการตรวจสอบและการดำเนินการ PDCA (Plan Do Check Act) เพื่อช่วยคุณค้นหาวิธีแก้ไข

กุญแจสำคัญในการตลาดเชิงพื้นที่เพื่อให้ประสบความสำเร็จคืออะไร?

จากขั้นตอนพื้นฐานที่อธิบายไว้จนถึงตอนนี้ คุณสามารถทำให้การตลาดในพื้นที่ของคุณเข้าใกล้ความสำเร็จได้มากขึ้นโดยฝึกปฎิบัติตามข้อที่สำคัญ

ในส่วนต่อไปนี้ เราจะอธิบายมาตรการสำคัญ สามประการที่จะนำไปสู่การวิเคราะห์การตลาดเชิงพื้นที่ที่ประสบความสำเร็จ

มาตรการที่ 1: กำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมาย ทำให้ชัดเจน และแบ่งปันข้อมูลตลอดเวลา

กุญแจสู่ความสำเร็จคือ การกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายสำหรับการตลาดเชิงพื้นที่ ประกาศพูดสื่อสารให้ชัดเจน และแบ่งปันการรับรู้ข้อมูลกับทีมและแผนกของคุณอย่างต่อเนื่อง

การพูดถึงวัตถุประสงค์และเป้าหมายช่วยให้ทราบวัตถุประสงค์และเป้าหมายได้ง่ายขึ้น และช่วยให้สามารถแบ่งปันข้อมูลได้อย่างราบรื่นโดยไม่เบี่ยงเบนไปจากจุดสนใจหลัก
ของโครงการ สิ่งสำคัญคือต้องแบ่งปันข้อมูลกับบริษัทและแผนกต่างๆ เพื่อให้ได้รับทราบข้อมูล เนื่องจากมุมมองของแต่ละคนแตกต่างกัน การแบ่งปันข้อมูลซึ่งกันและกันเพื่อให้สามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมเข้ากับการตลาดในพื้นที่เป้าหมายได้

จุดที่ 2: วางแผนตัดสินใจล่วงหน้าว่าคุณจะวิเคราะห์อะไรและมากน้อยเพียงใด

กุญแจดอกที่สองสู่การตลาดเชิงพื้นที่ที่ประสบความสำเร็จ

เหตุผล คือ หากการวิเคราะห์ดำเนินการโดยไม่มีเป้าหมาย จะไม่ได้ผลลัพธ์ของการวิเคราะห์โดยละเอียด หากมีการวางแผนกำหนดเป้าหมายล่วงหน้าในการดำเนินงานการตลาดเชิงพื้นที่ จะทำให้สามารถบรรลุผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จุดที่ 3: การวิเคราะห์จำนวนกลุ่มเป้าหมายและประสบการณ์การวิเคราะห์รูปแบบต่างๆ

กุญแจดอกสุดท้ายสู่ความสำเร็จของการตลาดเชิงพื้นที่ คือ ทำการวิเคราะห์จำนวนของกลุ่มเป้าหมายและเรียนรู้รูปแบบพื้นที่การตลาดต่างๆ

การวิเคราะห์การตลาดในพื้นที่มี 4 ประเภท และเครื่องมือและขั้นตอนที่ใช้จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และมาตรการ จำนวนประสบการณ์การวิเคราะห์ทำความเข้าใจรูปแบบและสร้างรูปแบบของตัวเอง กล่าวคือ “วิธีการวิเคราะห์นั้นสามารถใช้เพื่อจุดประสงค์ไหนได้บ้าง” จะพัฒนาทักษะการวิเคราะห์ของตนเองและนำไปสู่ความสำเร็จของการตลาดเชิงพื้นที่ของบริษัทคุณได้

หากคุณไม่แน่ใจว่าจะใช้รูปแบบการวิเคราะห์แบบไหน เราขอแนะนำให้คุณดูกรณีศึกษาของบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมที่คล้ายกับธุรกิจของคุณ คุณยังสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของการวิเคราะห์ของคุณได้โดยการใช้ประโยชน์จากการสัมมนาและความช่วยเหลือที่สนับสนุนจากบริษัทการตลาด

สรุป: ขั้นตอนและประเด็นสำคัญของการตลาดเชิงพื้นที่ที่นำไปสู่ความสำเร็จ

  • การตลาดเชิงพื้นที่มี 4 ประเภท
  • การเข้าใจขั้นตอนพื้นฐานสามารถทำให้การตลาดเชิงพื้นที่ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
  • มาตรการสำคัญ 3 ประการ ที่สามารถนำไปสู่การตลาดเชิงพื้นที่ที่ประสบความสำเร็จ

การวิเคราะห์การตลาดเชิงพื้นที่ สามารถทำได้อย่างราบรื่นโดยการวางมาตรการสำคัญ เมื่อคุณเรียนรู้ประเภทของการวิเคราะห์และขั้นตอนต่างๆ และเมื่อคุณมีประสบการณ์มากขึ้น ความแม่นยำของการวิเคราะห์ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย

สามารถทำตามขั้นตอนที่อธิบายไว้ในบทความนี้เพื่อทำการวิเคราะห์การตลาดเชิงพื้นที่และมาตรการทั้งหมดนี้สามารถรับประกันความสำเร็จของธุรกิจของคุณได้

Copied title and URL