การตลาดเชิงพื้นที่มีประโยชน์อย่างไร? ประโยชน์ 4 ข้อที่สนับสนุนกลยุทธ์การบริหาร

Area Marketing
This article can be read in about 2 minutes.

การตลาดเชิงพื้นที่เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่จำเป็นสำหรับการทำธุรกิจในชุมชน อย่างไรก็ตาม แม้มีหลายคนที่เข้าใจว่าการตลาดเชิงพื้นที่เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่คำนึงถึงลักษณะเฉพาะของแต่ละพื้นที่ แต่อาจจะยังไม่ทราบถึงประโยชน์ที่แท้จริงของการตลาดเชิงพื้นที่มากนัก

ในบทความนี้ จะอธิบายว่าทำไมการตลาดเชิงพื้นที่จึงมีความจำเป็นสำหรับกลยุทธ์การบริหาร การวางแผนธุรกิจ และประโยชน์ที่จะได้รับจากการตลาดเชิงพื้นที่

การตลาดเชิงพื้นที่กลายเป็นเครื่องมือการจัดการที่มีประสิทธิภาพ

การตลาดเชิงพื้นที่เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำรวจและวิเคราะห์ความต้องการ และลักษณะเฉพาะของแต่ละพื้นที่ อีกทั้งยังทำการส่งเสริมการขาย และแนวทางที่เหมาะสมสำหรับแต่ละพื้นที่ด้วยบางครั้งอาจเรียกว่า “การตลาดชุมชน” เพราะเป็นการสำรวจเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท เช่น ไลฟ์สไตล์ของพื้นที่ที่เปิดร้าน ลักษณะของผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่น ความต้องการและการแข่งขัน และการทำการตลาดที่หยั่งรากลึกลงไปในพื้นที่

การวิเคราะห์ด้วยการตลาดเชิงพื้นที่และการพัฒนานโยบายโดยอิงจากข้อมูลดังกล่าว จะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพต่อกลยุทธ์การบริหาร เพื่อให้สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่ากลุ่มเป้าหมายประเภทใดที่สามารถเป็นลูกค้าได้ และต้องเข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายนั้นอาศัยอยู่ที่ ใดกล่าวอีกนัยหนึ่ง การตรวจสอบพื้นที่ที่มีโครงสร้างประชากรจำนวนมากของกลุ่มเป้าหมาย และการเปิดร้านเป็นวิธีที่รวบรัดที่สุดในการเพิ่มผลกำไร

ประโยชน์ 4 ข้อของการตลาดเชิงพื้นที่


การตลาดเชิงพื้นที่เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการกำหนดกลยุทธ์การบริหาร แต่ข้อดีคืออะไรล่ะ? ในที่นี้จะหยิบยก และอธิบาย 4 ข้อที่จะเกิดขึ้นเมื่อทำการตลาดเชิงพื้นที่ และประโยชน์ที่จะนำมาสู่บริษัทของคุณว่ามีอะไรบ้าง
มาทำความเข้าใจประโยชน์ของการตลาดเชิงพื้นที่ และใช้ในกลยุทธ์การตลาดตั้งแต่นี้เป็นต้นไป

เพิ่มความแม่นยำในการจัดทำแผนธุรกิจ

เมื่อพิจารณาถึงการส่งเสริมการขายและการพัฒนาธุรกิจของบริษัทของคุณ การกำหนดแผนการที่แม่นยำสูงนั้นเป็นสิ่งสำคัญ
เพื่อจะไปสู่เป้าหมายต้องวางแผนต่างๆ เช่น แผนการบริหาร แผนส่งเสริมการโฆษณา และแผนการขาย หากแผนใดแผนหนึ่งไม่เพียงพอและไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แผนโดยรวมอาจล่ม และสภาพการบริหารของบริษัทอาจแย่ลงได้

หากเข้าใจความต้องการของแต่ละพื้นที่ผ่านการตลาดเชิงพื้นที่ จะสามารถกำหนดได้ว่าแผนธุรกิจประเภทใดที่ควรทำในพื้นที่นั้นๆ เพื่อให้ประสบความสำเร็จ ดังนั้นจะสามารถจัดทำแผนงานที่แม่นยำสูงเพื่อส่งเสริมการเติบโตของบริษัท

เข้าใจความต้องการของพื้นที่

มีสินค้าหรือบริการไม่กี่ประเภทที่สามารถขายได้เท่ากันทั่วประเทศ
ตัวอย่างเช่น ผ้าพันคอแคชเมียร์ 100% ที่ป้องกันความหนาวเย็นได้ดีเยี่ยมนั้น เป็นที่ต้องการในพื้นที่หนาวเย็น เช่น ฮอกไกโดและภูมิภาคโทโฮคุ แต่สัดส่วนความต้องการในคิวชูที่อบอุ่นและโอกินาว่านั้นต่ำ นอกจากนี้ยังง่ายต่อการคิดว่าเครื่องอุปโภคบริโภค เช่น กระดาษชำระและผงซักฟอกจะขายได้อย่างสม่ำเสมอในทุกภูมิภาค แต่ขึ้นอยู่กับภูมิภาคซึ่งอาจมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงราคาสูง รวมทั้งแพ็กที่มีความจุสูงคุ้มค่าราคาต่ำก็ขายได้

ตอนที่เปิดร้านค้าจริง และเมื่อจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการ เว้นแต่จะชัดเจนว่าพื้นที่นั้นเป็นไลฟ์สไตล์ประเภทใดและต้องการอะไร มีความเป็นไปได้ที่จะขายสินค้าที่ไม่ตรงกับความต้องการ ซึ่งจะทำให้สร้างผลกำไรต่อไปได้ยาก ดังนั้นหากทำการวิเคราะห์การตลาดเชิงพื้นที่อย่างละเอียดและเข้าใจความต้องการของแต่ละพื้นที่และลักษณะของผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นจะสามารถเห็น “สิ่งที่คุณควรขายเพื่อทำกำไร” ซึ่งง่ายต่อการกำหนดทิศทางและกลยุทธ์การบริหารของบริษัทมากขึ้นการจัดการร้านอย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่เพิ่มยอดขาย แต่ยังส่งผลต่อการลดต้นทุนการส่งเสริมการขาย ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มผลกำไรจากการดำเนินงานได้อีกด้วย

กิจกรรมการขายที่มีประสิทธิภาพ

ข้อมูลที่วิเคราะห์ด้วยการตลาดเชิงพื้นที่ จะนำไปสู่ความเข้าใจในการเริ่มต้นธุรกิจระดับภูมิภาค การนำความต้องการและเทรนด์ของภูมิภาคนั้นๆ มาใช้กับกิจกรรมการขายจะทำให้ง่ายขึ้น สำหรับพนักงานขายและพนักงานส่งเสริมการขายประจำพื้นที่ซึ่งไปที่ร้านและไปหาลูกค้าเพื่อขายผลิตภัณฑ์ การไม่ตอบสนองต่อการดำเนินชีวิตและการดึงดูดลูกค้ากลายเป็นปัญหาร้ายแรง และไม่เพียงแต่ผลประกอบการของบริษัทจะแย่ลงเท่านั้น ยังส่งผลต่อแรงจูงใจของแต่ละคนด้วย

การตลาดเชิงพื้นที่ยังสามารถวิเคราะห์ว่า “ต้องใช้โปรโมชันหรือโฆษณาแบบใดในพื้นที่ใด” ซึ่งจะเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับบุคลากรฝ่ายขายและฝ่ายส่งเสริมการขายในการขายและเข้าถึงลูกค้า

เนื่องจากเวลาและงบประมาณมีจำกัด จะเห็นผลง่ายขึ้น โดยจำกัดพื้นที่ที่มีการตอบรับอย่างดี และดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น การแจกใบปลิวโฆษณา
นอกจากนี้ หากใช้การตลาดเชิงพื้นที่เพื่อแยกพื้นที่ที่มีความสนใจผลิตภัณฑ์และบริการสูงแล้วนั้น สามารถใช้พื้นที่เหล่านี้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการตัดสินใจเลือกแนวทางการขายได้

ใช้ทำการตลาดได้อีกด้วย

ในการตลาดเชิงพื้นที่นั้น ยังได้แปลงองค์ประกอบด้านประชากร ร้านคู่แข่ง การเข้าถึง คุณลักษณะทางภูมิศาสตร์ ฯลฯ ในรูปแบบดิจิทัลโดยละเอียด สำหรับร้านค้าที่เปิดใหม่ และพื้นที่รอบร้านค้าที่มีอยู่ ด้วยการใช้ข้อมูลดังกล่าว จะสามารถการกำหนดประเภทการส่งเสริมการขายได้ง่ายขึ้น และควรเข้าหาพื้นที่การค้ามากน้อยเพียงใด

ทั้งนี้การตลาดเชิงพื้นที่ จุดประสงค์นั้นไม่ได้เป็นการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล แต่การตลาดเชิงพื้นที่เป็นเครื่องมือสำหรับทำการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนยกระดับผลงานของบริษัทด้วยความสำเร็จของการตลาด ดังนั้น
เมื่อทำการตลาดเชิงพื้นที่
ให้คำนึงถึงการใช้ข้อมูลการตลาดอย่างสร้างสรรค์ไม่ใช่แค่พอใจในกระบวนการวิเคราะห์พื้นที่

เพื่อทำความเข้าใจการตลาดเชิงพื้นที่และนำไปใช้ในกลยุทธ์การบริหาร


การตลาดเชิงพื้นที่เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ในการทำการตลาดที่เหมาะสมกับลักษณะของแต่ละพื้นที่ โดยวิเคราะห์การรับรู้ วัฒนธรรม และไลฟ์สไตล์ตามแต่ละพื้นที่ นอกจากนี้ควรที่จะพิจารณาเสมอถึงพื้นที่ที่ร้านเราตั้งอยู่

ความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค และหากสามารถกำหนดความต้องการที่แตกต่างกันได้อย่างแม่นยำ ก็จะง่ายต่อการกำหนดแผนธุรกิจ และปรับปรุงผลการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

ด้วยเหตุนี้ สิ่งสำคัญคือการเตรียมการ โดยต้องเลือกเป้าหมายหลักของบริษัทของคุณก่อน กำหนดขอบเขตพื้นที่การค้าที่ถูกต้องเพื่อวางรากฐานสำหรับการวิเคราะห์ และติดตั้งเครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์พื้นที่การค้าของคุณ ถ้าหากคุณทำการตลาดเชิงพื้นที่โดยไม่มีความรู้ ก็อาจเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการทำงาน เนื่องจากไม่ได้รวบรวมข้อมูลตรงตามที่คุณต้องการ
เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลยุทธ์การบริหารด้วยการตลาดเชิงพื้นที่ เราแนะนำให้ใช้เครื่องมือและบริการด้านการตลาดเชิงพื้นที่ที่เราได้สั่งสมความรู้เอาไว้

Copied title and URL