การวิจัยตลาดมีความจำเป็นอย่างไร? มาเรียนรู้ 4 กรอบแนวคิดที่เป็นประโยชน์ต่อการวิเคราะห์การตลาดกัน

Area Marketing
This article can be read in about 15 minutes.

การดำเนินการวิจัยการตลาดโดยไม่เข้าใจและขาดความรู้ จะนำไปสู่การดำเนินงานที่ไม่มีประสิทธิภาพและเกิดการกำหนดกลยุทธ์ไปในทิศทางทางที่ผิดพลาด เพื่อเพิ่มประสิทธิผลของการวิจัยให้ทำความเข้าใจถึงความจำเป็นของการวิจัยตลาดและวิธีการดำเนินการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพ

ในบทความนี้ เราจะอธิบายวัตถุประสงค์ของการวิจัยการตลาด วิธีการพื้นฐาน และกรอบการทำงานที่เป็นประโยชน์สำหรับการวิจัย หากคุณเป็นผู้ทำงานด้านการตลาดหรือต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิจัยตลาด โปรดใช้ข้อมูลต่อไปนี้เป็นข้อมูลอ้างอิง

การวิจัยการตลาดใช้เพื่ออะไร?

“การวิจัยการตลาด” เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมทางการตลาดและเป็นการสำรวจเพื่อรับรู้สถานะปัจจุบันของตลาด
ลักษณะเฉพาะอย่างหนึ่งของการวิจัยการตลาดก็คือ ข้อมูลการสำรวจสามารถรวมกันเป็นตัวเลขได้ ทำให้เปรียบเทียบและวิเคราะห์ได้ง่าย ซึ่งทำขึ้นเพื่อตรวจสอบแนวโน้มของตลาด การรับรู้ของบริษัทในตลาด ความต้องการของลูกค้า เป็นต้น

เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้า จำเป็นต้องทำให้พวกเขาสนใจบริษัท ผลิตภัณฑ์ และบริการของคุณก่อน แต่เพื่อจุดประสงค์เหล่านั้นจำเป็นต้องทำความเข้าใจว่า “ลูกค้าสนใจสิ่งใด” การวิจัยทางการตลาดแบบเจาะลึกจึงเป็นสิ่งสำคัญ

การทำวิจัยการตลาดมีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร?

การทำวิจัยการตลาดมีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร?
วัตถุประสงค์ของการวิจัยการตลาด คือ การวิเคราะห์และทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าและแนวโน้มของตลาด

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ในการดำเนินกิจกรรมทางการตลาด เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามารู้จักเกี่ยวกับบริษัท สนใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการ และตัดสินใจซื้อนั้น จำเป็นต้องมีหลักฐาน เช่น “ทำไมคุณถึงผลิตผลิตภัณฑ์นั้น” และ “ทำไมผลิตภัณฑ์นี้ถึงจำเป็น”ข้อมูลที่ได้รับจากการวิจัยตลาดสามารถวัดปริมาณและพิสูจน์ได้ ซึ่งทำให้การวิจัยเป็นเรื่องที่จำเป็นต่อการทำกิจกรรมทางการตลาด

การคาดการณ์ โดยอาศัยหลักฐานและได้ข้อมูลที่เป็นตัวเลข จะช่วยให้คุณปรับปรุงความแม่นยำของการตลาดและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จได้ แม้ว่าธุรกิจของคุณอาจจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ความเสี่ยงก็จะลดลงหากทำการวิจัย

วิธีการพื้นฐานในการวิจัยการตลาด

การวิจัยการตลาดพื้นฐาน มี 3 ขั้นตอน ในที่นี้เราจะอธิบายวิธีดำเนินการวิจัยการตลาดทีละขั้นตอน ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1: กำหนดวัตถุประสงค์ของคุณ

วิธีการวิจัยจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์เมื่อทำการวิจัยการตลาด จำเป็นต้องกำหนดให้ชัดเจนว่า “คุณขายผลิตภัณฑ์อะไรและขายให้ใคร” และตรวจสอบรายการที่คุณต้องการอย่างละเอียดตั้งเป้าหมายให้เฉพาะเจาะจงที่สุด

การกำหนดวัตถุประสงค์การวิจัยที่ชัดเจนจะช่วยให้จัดระเบียบงานและตารางเวลาได้ง่ายขึ้น หากการวิจัยการตลาดของคุณไม่ประสบความสำเร็จ ควรตรวจสอบอีกครั้งว่าวัตถุประสงค์ของคุณนั้นชัดเจนหรือไม่

ขั้นตอนที่ 2: พิจารณาตัดสินใจเลือกวิธีการที่จะใช้ในการทำวิจัยของคุณ

หลังจากกำหนดวัตถุประสงค์ของการวิจัยแล้ว ให้ตัดสินใจเลือกวิธีที่จะใช้ในการวิจัย มีวิธีสำหรับทำการวิจัยมากมาย เช่น การสำรวจ การวิจัยแบบไม่เปิดเผย และการทดสอบการตลาด เป็นต้น ความน่าเชื่อถือของข้อมูลและต้นทุนจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวิธีที่คุณเลือก ดังนั้น ให้เลือกวิธีที่เหมาะสมตามวัตถุประสงค์ของคุณ

การวิจัยการตลาดสามารถทำได้ โดยการจ้างบริษัทวิจัยหรือทำเองภายในบริษัท
หากคุณจ้างบริษัทวิจัย ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่า แต่ความแม่นยำของการวิจัยตลาดของคุณจะสูงและดีกว่า ในทางกลับกัน การทำวิจัยตลาดภายในบริษัท ค่าใช้จ่ายจะน้อยกว่า แต่ขาดความแม่นยำเช่นกัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้มาตรการเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ เช่น การสำรวจข้อมูลจากประชากรจำนวนมาก

พิจารณาข้อดีข้อเสียและตัดสินใจว่าจะทำการวิจัยตลาดโดยบริษัทวิจัยหรือทำเองภายในองค์กร

ขั้นตอนที่ 3: วิเคราะห์โดยการใช้กรอบการดำเนินงาน

เราขอแนะนำให้ใช้กรอบงานเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลรวมในลักษณะที่เข้าใจง่ายเพื่อทำให้เกิดความเข้าใจ และเรียนรู้เกี่ยวกับลักษณะเฉพาะของกรอบการดำเนินงานหรือกรอบงานต่างๆ ที่สามารถใช้สำหรับการวิจัยการตลาด และพิจารณาว่ากรอบงานใดที่จะช่วยให้คุณรวบรวมข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

กรอบการดำเนินงาน 4 ประเภท ที่เป็นประโยชน์ต่อการวิจัยการตลาด

การวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัยการตลาดสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้กรอบงาน ในที่นี้เราจะแนะนำกรอบงาน 4 ประเภทที่มีประโยชน์สำหรับการทำวิจัยการตลาด

กรอบงานที่ 1: การวิเคราะห์ 3C

“การวิเคราะห์ 3C” เป็นวิธีการวิเคราะห์ที่มุ่งเน้นใน 3Cs ทางด้านการทำการตลาด

  • ลูกค้า (Customer): ลูกค้าของคุณคือใคร พวกเขามีความต้องการอะไร
  • คู่แข่ง (Competitor): สถานะปัจจุบัน ส่วนแบ่งการตลาด การประเมินที่เป็นกลาง
  • บริษัท/สถานประกอบการ (Company): จุดแข็ง จุดอ่อน การประเมินที่เป็นกลาง

เราจะกำหนดกลยุทธ์จากความต้องการของลูกค้า สถานการณ์ปัจจุบัน, จุดแข็งของบริษัทคุณ และกิจกรรมทางการตลาดของคู่แข่งคุณคู่แข่งจะปรับเปลี่ยนการตอบสนองของพวกเขาเช่นกันเพื่อให้สอดคล้องต่อการเปลี่ยนแปลงของลูกค้า ดังนั้นการทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จึงเป็นเรื่องสำคัญการประเมินบริษัทของคุณอย่างเป็นกลางและเปรียบเทียบกับคู่แข่ง คุณจะสามารถทราบว่าคุณอยู่ในตำแหน่งใดในตลาด

กรอบงานที่ 2: การวิเคราะห์ PEST

“การวิเคราะห์ PEST” เป็นวิธีการวิเคราะห์ที่มุ่งเน้น 4 เรื่อง ต่อไปนี้

  • การเมือง/เกี่ยวกับการเมือง (Politics/Political):กฎหมายธุรกิจและแนวโน้มทางการเมือง
  • เศรษฐกิจ/ทางเศรษฐกิจ (Economy/Economical):การเปลี่ยนแปลงรายได้ของลูกค้า ระดับเศรษฐกิจ อัตราการแลกเปลี่ยน และอัตราดอกเบี้ย
  • สังคม/ทางสังคม (Society/Social):ความน่าเชื่อถือของลูกค้า นิสัย และแนวโน้มประชากรในตลาดธุรกิจคุณ
  • เทคโนโลยี/ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี (Technology/Technological):วิวัฒนาการของการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีการผลิต

ทั้ง 4 เรื่องนี้ เป็นปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อการตลาด ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายและแนวโน้มเศรษฐกิจซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อการตลาดการใส่ใจสภาพแวดล้อมมหภาคเหล่านี้จะช่วยให้คุณกำหนดกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับแนวโน้มได้

กรอบที่ 3: การวิเคราะห์ SWOT

“การวิเคราะห์ SWOT” เป็นวิธีการวิเคราะห์ที่มุ่งเน้น 4 เรื่อง ดังต่อไปนี้

  • จุดแข็ง (Strength): จุดแข็งและข้อได้เปรียบของบริษัท [สภาพแวดล้อมภายใน][สภาพแวดล้อมภายใน]
  • จุดอ่อน (Weakness):จุดอ่อนและข้อบกพร่องของบริษัท [สภาพแวดล้อมภายใน]
  • โอกาส (Opportunity):ผลกระทบเชิงบวกจากการเปลี่ยนแปลงในสังคมและตลาด [สภาพแวดล้อมภายนอก]
  • ภัยคุกคาม (Threat):ผลกระทบเชิงลบจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและตลาด [สภาพแวดล้อมภายนอก]

จัดระเบียบข้อมูลที่ได้รับมา โดยการวิเคราะห์ 3C และการวิเคราะห์ PEST การระบุรายการของ SWOT แต่ละรายการ และพิจารณาลำดับความสำคัญทางการตลาดที่บริษัทของคุณควรทำจุดแข็งและโอกาสควรมีมากที่สุดเท่าที่จะสามารถเป็นไปได้ ในขณะเดียวกันจุดอ่อนและภัยคุกคามควรมีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

โอกาสในการดึงดูดลูกค้าซึ่งได้รับอิทธิพลจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและสภาพเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวย ภัยคุกคามเป็นปัจจัยเชิงลบ เช่น การเพิ่มขึ้นของร้านค้าคู่แข่ง การเติบโต หรือภาวะเศรษฐกิจถดถอย

การเข้าใจลำดับความสำคัญทางการตลาดของคุณอย่างถูกต้อง จะสามารถตัดสินใจได้ว่าควรจะทุ่มทรัพยากรส่วนใหญ่ไปที่ใดและยังช่วยให้สามารถคาดการณ์เมื่อเกิดวิกฤตเกิดขึ้นได้ง่าย ช่วยให้ตอบสนองได้รวดเร็วและลดความเสี่ยง

กรอบงาน: การวิเคราะห์ ‘การแข่งขันธุรกิจ’ (Five forces)

“การวิเคราะห์ การแข่งขันธุรกิจ” เป็นวิธีการวิเคราะห์ภัยคุกคามทั้ง 5 ประการที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ โดยอาศัยข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ 3C และการวิเคราะห์ PEST

  • คู่แข่งในอุตสาหกรรม: มีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดของบริษัทของคุณและบริษัทอื่น ๆ
  • อำนาจต่อรองของผู้ซื้อ (ลูกค้า): ลูกค้ามีหลากหลายทางเลือกมากขึ้น ทำให้มีอิทธิพลในการต่อรองที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลทำให้กำไรลดลง
  • อำนาจต่อรองของคู่ค้า (ซัพพลายเออร์): มีอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้กำไรลดลง
  • ภัยคุกคามจากผลิตภัณฑ์ทดแทน: ความต้องการของลูกค้าสามารถตอบสนองความต้องการได้ด้วยผลิตภัณฑ์อื่น
  • ภัยคุกคามจากผู้ขายรายใหม่: ตลาดที่มีอุปสรรคน้อยทำให้การเข้ามาของผู้แข่งขันรายใหม่เป็นไปได้ง่ายขึ้น

หากบริษัทใดครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นส่วนใหญ่ บริษัทนั้นก็จะได้รับอิทธิพลจากคู่แข่งในอุตสาหกรรมน้อยลง

เมื่ออำนาจการต่อรองของผู้ซื้อเพิ่มขึ้น อัตรากำไรของผู้ขายก็อาจลดลงได้ เนื่องจากผู้ซื้อเรียกร้องราคาที่ต่ำลงและระดับบริการที่สูงขึ้น เช่นเดียวกับผู้ขาย แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนราคาขายในร้าน แต่ราคาซื้ออาจผันผวน ดังนั้น หากคุณมีอำนาจในการต่อรองมากขึ้น ก็มีความเป็นไปได้ที่กำไรของคุณจะลดลง

สำหรับผู้ขายนั้น แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนราคาขายในร้าน แต่ราคาซื้ออาจผันผวนได้ ดังนั้น หากอำนาจการต่อรองของผู้ขายเพิ่มขึ้น ก็มีความเป็นไปได้ที่กำไรของคุณจะลดลง

การใช้การวิเคราะห์ การแข่งขันธุรกิจ (Five Forces) ช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบบริษัทของคุณกับคู่แข่ง และรู้แนวคิดที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับการตัดสินใจในการบริหารจัดการที่สำคัญ เช่น เมื่อใดควรลดราคา, ขึ้นราคา และเมื่อใดควรถอนตัว

บทสรุป: ใช้กรอบงานเพื่อดำเนินการวิจัยตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ

  • การวิจัยตลาดเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ชี้แจงวัตถุประสงค์และตัดสินใจเกี่ยวกับวิธีการวิจัยตลาด
  • การใช้กรอบงานช่วยให้วิเคราะห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การวิจัยการตลาดซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมส่งเสริมการตลาดซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำความเข้าใจและจัดระเบียบเงื่อนไขทางการตลาดที่เกี่ยวข้องกับบริษัทของคุณและความต้องการของลูกค้า

หลังจากทำการวิจัยการตลาดแล้ว ให้ใช้กรอบงานเพื่อวิเคราะห์ทำความเข้าใจว่าคุณอยู่ตรงไหนเมื่อเทียบกับคู่แข่งและเข้าใจแนวโน้มต่างๆของตลาด ได้ดียิ่งขึ้น การดำเนินการวิจัยตลาดอย่างมีประสิทธิภาพจะทำให้คุณสามารถตัดสินใจได้โดยใช้ความรู้ที่ได้จากการทำวิจัยมาบริหารจัดการสถานการณ์การที่สำคัญได้

หากคุณประสบปัญหาใดๆ หรือกังวลขณะดำเนินการวิจัยการตลาด ให้ตรวจสอบและยืนยันวัตถุประสงค์ของคุณอีกครั้ง เพื่อดำเนินการวิเคราะห์โดยนำข้อมูลที่ได้จากการวิจัยไปใช้กับกรอบการทำงาน

Copied title and URL