การตลาดภายในร้านค้า กำลังได้รับความสนใจจากผู้ประกอบธุรกิจเพื่อการบริหารจัดการธุรกิจของร้านค้านำไปสู่การเพิ่มศักยภาพในการขาย
บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับภาพรวมการตลาดภายในร้าน เทคนิคเฉพาะในการส่งเสริมการขาย และโยชน์ที่จะได้รับตลอดจนสามารถคาดหวังได้จากการทำการตลาดภายในร้าน
หากคุณกำลังสงสัยเกี่ยวกับวิธีการส่งผลต่อการเพิ่มยอดขาย หรือไม่แน่ใจเกี่ยวกับมาตรการเฉพาะเพื่อปรับปรุงพนักงานขายของคุณ และคุณกำลังพยายามเปิดร้านค้าและหาวิธีดึงดูดลูกค้าที่มีแนวโน้มจะซื้อสินค้าของคุณมากขึ้น โปรดอ่านบทความนี้
แนวคิดพื้นฐานของการทำตลาดภายในร้านค้าคืออะไร?
“การตลาดในร้าน”คือการทำการตลาดส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มศักยภาพการขายบนชั้นวางสินค้าคำนี้ หมายถึง มาตรการทั้งหมดที่ดำเนินการเพื่อปรับปรุงยอดขายในร้านค้าปลีก รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการขายการจัดแสดงสินค้าบนชั้นวางขาย
การตลาดภายในร้านเป็นแนวคิดที่ใช้ร้านค้าเป็นจุดเริ่มต้นในการเพิ่มยอดขายและส่งเสริมการขาย เรียกว่า “การตลาดในร้าน” หรือ “การตลาด ณ จุดขาย”
ที่มาของแนวคิดการตลาดในร้าน คือ การขายที่อาศัยการส่งเสริมการขายและแค่เพียงเรื่องราคาอาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีอีกต่อไป เนื่องมาจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากจำนวนร้านค้าที่เพิ่มขึ้นในตลาดและความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายขึ้นจึงต้องมีการตรวจสอบพื้นที่ขายเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าได้อย่างเหมาะสม
ความแตกต่างของการจัดวางสินค้าในร้าน
“การจำหน่ายสินค้าภายในร้าน” คือ คำทั่วไปที่ใช้เรียกในทางเทคนิคส่งเสริมการขายเฉพาะทางในการทำการตลาดภายในร้าน
เรื่องสำคัญในการขายสินค้าในร้าน ดังนี้
- จัดแสดงสินค้าในลักษณะที่ทำให้ค้นหาได้ง่าย
- จัดวางสินค้าให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า
นอกจากการจัดวางแสดงผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ลูกค้ากำลังมองหรือค้นหาได้ง่ายแล้ว การจัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับความต้องการของลูกค้ายังจะช่วยเพิ่มยอดขายและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าได้อีกด้วยการจัดการพื้นที่ขายสินค้าภายในร้านอย่างเหมาะสมจะช่วยป้องกันการเสียโอกาสในการขาย
องค์ประกอบของการจัดแสดงสินค้าในร้านที่คุณจำเป็นต้องรู้ 2 ข้อ ดังนี้
การจัดแสดงสินค้าในร้านมีสององค์ประกอบ:
- การส่งเสริมการขายภายในร้าน
- การจัดการพื้นที่
มาตรการดังกล่าวข้างต้นมีความจำเป็นสำหรับการปรับปรุงอัตราการกลับมาซื้อของลูกค้าและการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน ทำความเข้าใจแต่ละวิธีและนำไปประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิผลของการตลาดภายในร้านของคุณ
การส่งเสริมการขายในร้าน
“การส่งเสริมการขายในร้าน”หมายถึงวิธีการส่งเสริมการขายที่ใช้ภายในร้านค้าการส่งเสริมการขายในร้านมีจุดประสงค์เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าที่เคยมาเยี่ยมชมร้านค้าแล้ว สามารถเพิ่มการซื้อส่งผลต่อยอดขายได้อย่างง่ายดาย
วิธีการส่งเสริมการขายในร้านมีอยู่ 2 ประเภท คือ“การขับเคลื่อนด้วยราคา”และ“การไม่อิงราคา”
Method | Example |
การขับเคลื่อนด้วยราคา | ลดราคาชั่วคราวเพื่อเพิ่มความอยากในการซื้อ ของลูกค้ามีลักษณะเด่น คือ การส่งผลทันทีสูง (ตัวอย่าง) ส่วนลด/สติกเกอร์ส่วนลด การส่งเสริมการขายเพื่อขอบคุณลูกค้า ราคาคงที่ แพ็กเสริม เป็นต้น |
การไม่อิงราคา | มุ่งหวังที่จะเพิ่มความเต็มใจในการซื้อของลูกค้าโดยการประกาศ แนะนำผลิตภัณฑ์และบริการ (ตัวอย่าง) เพื่มความอยากซื้อด้วยการขายแบบสาธิตสินค้าให้ลูกค้าดู, สินค้าแปลกใหม่, POP (Point of Purchase) สื่อส่งเสริมการขาย ณ จุดขาย ป้ายดิจิทัล เป็นต้น |
ในกรณีของกลยุทธ์ที่เน้นการขับเคลื่อนด้วยราคา ลูกค้าจะสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาต่ำ แม้ว่ามาตรการเหล่านี้จะมีผลทันที แต่ก็ยากที่จะเพิ่มยอดขายอย่างต่อเนื่อง
เราขอแนะนำให้ดำเนินการเชิงรุกโดยวิธีไม่อิงราคา และดำเนินการการขับเคลื่อนด้วยวิธีการขับเคลื่อนด้วยราคาเป็นการชั่วคราวในเวลาที่เหมาะสม
การจัดการพื้นที่
“การจัดการพื้นที่”เป็นคำทั่วไปสำหรับวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพของชั้นวางสินค้าและการแสดงสินค้าในร้านค้า
เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าสามารถค้นหาและเลือกสินค้าที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย ให้สร้างความแตกต่างให้ร้านของคุณจากร้านของคู่แข่งโดยพิจารณาขั้นตอนต่อไปนี้ในการจัดสรรสินค้าบนชั้นวาง นอกจากนี้ การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าในพื้นที่การค้าก็มีความสำคัญเช่นกัน
- 1. จัดเรียงสินค้าตามหมวดหมู่
- 2. คำนวณอัตราส่วนการขายจากตัวเลขยอดขายจริง
- 3. พิจารณาสินค้าและปริมาณที่ตรงกับอัตราการขาย
แนวคิดพื้นฐานของการจัดวางสินค้าในร้าน คือ การดึงดูดให้ลูกค้าใช้เวลาภายในร้านเพิ่มขึ้นและสร้างเส้นทางให้ลูกค้าสามารถเดินดูสินค้าทั้งชั้นขายได้ทั่วถึงสำหรับงานในการสร้างความสนใจในการเข้าชมร้านเรียกอีกอย่างว่า “การจัดการวางแสดงสินค้าบนชั้นวางขาย
เนื่องจากลูกค้าใช้เวลาอยู่ในร้านนานขึ้นทำให้โอกาสในการซื้อผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น ดังนั้นจำนวนการซื้อต่อคนของลูกค้าจึงน่าจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ผลประโยชน์ที่คาดหวังจากการตลาดภายในร้านค้า
ด้วยการใช้มาตรการการตลาดในร้านเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นกับลูกค้า คุณจะคาดหวังผลลัพธ์ 3 ประการ ดังต่อไปนี้ได้
- เพิ่มความสามารถในการขาย
- เพิ่มความภักดีของลูกค้าที่มีต่อร้าน
- มอบคุณค่าเชิงประสบการณ์
เราจะอธิบายแต่ละ ดังนี้
ผลประโยชน์ ข้อที่ 1: เพิ่มความสามารถในการขาย
ความสามารถในการขายที่เพิ่มขึ้น
การนำเทคโนโลยีไอทีมาใช้ในการตลาดภายในร้านค้าช่วยให้คุณได้รับข้อมูลต่างๆของลูกค้าซึ่งมีความจำเป็นต่อการปรับปรุงงานด้านการขายของคุณได้
เพศและอายุของลูกค้า รวมถึงจำนวนครั้งที่ดูโฆษณา ระยะเวลาที่ดู เป็นต้น
จึงขอแนะนำโซลูชันที่อิงตามผลการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อปรับปรุงและช่วยให้เกิดความสามารถในการขายเพิ่มขึ้นและการเพิ่มยอดขายในร้าน นอกจากนี้ ยังจำเป็นต้องให้พนักงานรู้ถึงวิธีการใช้ข้อมูลและวิธีคิดเกี่ยวกับมาตรการการตลาด รวมถึงการปรับปรุงความสามารถในการขายของบริษัทโดยรวม
ผลประโยชน์ที่ ข้อที่ 2: การปรับปรุงความภักดีของลูกค้า
ดังนั้นคุณจึงสามารถคาดหวังว่าจะเพิ่มความภักดีหรื่อสร้างความเชื่อใจของลูกค้าได้เนื่องจากเมื่อลูกค้าได้รับบริการและโปรโมชั่นการขายที่เกินความคาดหมาย ลูกค้าก็จะผูกพันกับร้านและแบรนด์นั้น
ความรู้สึกไว้วางใจและผูกพันที่ลูกค้ามีต่อบริษัท แบรนด์ หรือผลิตภัณฑ์การปรับปรุงความพึงพอใจของลูกค้าในร้านค้าที่สามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้โดยตรงจะนำไปสู่การเพิ่มความภักดีของลูกค้าด้วยเช่นกัน
การเพิ่มความภักดีของลูกค้าจะนำไปสู่การบอกต่อแบบปากต่อปากจากผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับแบรนด์ของบริษัทคุณได้
ผลประโยชน์ ข้อที่ 3: มอบคุณค่าเชิงประสบการณ์
คือ คุณสามารถมอบคุณค่าเชิงประสบการณ์ให้กับลูกค้าได้อย่างเต็มที่โดยผ่านทางประสาทสัมผัสทั้งห้าของพวกเขาการให้คุณค่าเชิงประสบการณ์แก่ลูกค้า การแสดงจุดแข็งของคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ของคุณอย่างแข็งขัน และการสร้างโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าด้วยความเชี่ยวชาญถือเป็นสิ่งสำคัญต่อการเพิ่มยอดขาย
การตลาดภายในร้านช่วยให้คุณมอบโอกาสให้ลูกค้าได้ค้นพบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยากบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างแข็งขัน เช่น ให้ลูกค้าเห็นคุณสามารถทำให้ลูกค้ารับรู้ถึงผลิตภัณฑ์และเพิ่มความต้องการที่จะซื้อได้
บนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซไม่สามารถสร้างบรรยากาศและพื้นที่และการสัมผัสได้ ให้ลูกค้าได้สัมผัสผลิตภัณฑ์ในร้านของคุณ จะช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสของพวกเขาและดึงดูดให้พวกเขา “ซื้อด้วยแรงกระตุ้น” ในผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาไม่ได้วางแผนที่จะซื้อ
สรุป: การตลาดในร้านเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
- “การตลาดในร้าน” คือ แนวคิดที่มุ่งเน้นการปรับปรุงศักยภาพการจัดวางแสดงสินค้าในพื้นที่ของร้านเพื่อกระตุ้นการซื้อขาย
- มีมาตรการ 2 ประเภท ได้แก่ “การส่งเสริมการขายในร้าน” และ “การจัดการพื้นที่”
- ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ได้แก่ การปรับปรุงความสามารถในการขาย ความภักดีของลูกค้า และการมอบคุณค่าเชิงประสบการณ์
การตลาดในร้านเป็นมาตรการที่ใช้เพื่อปรับปรุงเพิ่มยอดขายของร้านค้า
การจัดจำหน่ายสินค้าในร้าน หมายถึง วิธีการทางการตลาดที่เฉพาะเจาะจงที่ใช้ในร้านค้า และสามารถแบ่งประเภทการขายภายในร้าน ซึ่งเป็นวิธีการส่งเสริมการขาย และการจัดการพื้นที่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับชั้นวางแสดงสินค้าและการจราจรของผู้คนในร้าน
การตลาดในร้านช่วยเพิ่มความสามารถในการขายให้กับร้าน และยังมีข้อดีอื่นๆ เช่น ลูกค้ามีความผูกพันกับแบรนด์และผลิตภัณฑ์อีกด้วย
ประยุกต์ใช้การตลาดภายในร้านและบริหารจัดการวางแผนเพื่อเพิ่มยอดขายให้ร้านของคุณ!