มีพื้นที่การค้าหลายประเภท มาเรียนรู้ คุณลักษณะของพื้นที่การค้าประเภทต่างๆ เพื่อให้มีความเข้าใจถูกต้องมากขึ้นในการกำหนดพื้นที่การค้า!

Area Marketing
This article can be read in about 12 minutes.

ในส่วนของพื้นที่การตลาด สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาในระหว่างการสำรวจพื้นที่คือ “พื้นที่การค้า” ของสินทรัพย์ที่สำรวจ พื้นที่การค้าถูกกำหนดโดยระยะทางรอบๆ ร้านค้าโดยประมาณ แต่มีหลายประเภทและหลายแนวคิดเกี่ยวกับพื้นที่การค้า เนื่องจากข้อมูลที่เปิดเผยโดยการสำรวจพื้นที่การค้ามีความสำคัญต่อเงื่อนไขทางธุรกิจ เราจึงควรเรียนรู้เกี่ยวกับประเภทและลักษณะของพื้นที่การค้าก่อนเพื่อให้มีความเข้าใจถูกต้อง นำไปสู่การวิเคราะห์พื้นที่ได้อย่างแม่นยำ

ขออธิบายเกี่ยวกับเขตการค้าว่ามีประเภทใดบ้าง รวมถึงระยะทางและแนวคิดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

  1. “พื้นที่การค้าจริง” และ “พื้นที่การค้าโดยประมาณ”
  2. ประเภทและบทบาทของพื้นที่การค้าประมาณการที่ควรทราบเมื่อดำเนินการสำรวจพื้นที่การค้า
    1. เขตพื้นที่การค้าลำดับที่ 1 ถึง ลำดับที่ 3 ซึ่งจะพิจารณาจากความน่าจะเป็นในการเข้ามาชมร้านของลูกค้า
      1. พื้นที่การค้าหลัก
      2. พื้นที่การค้ารอง
      3. พื้นที่การค้านอกเขตศูนย์กลาง
      4. พื้นที่การค้ามีการผันแปรขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจ
    2. “พื้นที่การค้าท้องถิ่น” หรือ พื้นที่การค้าที่อยู่ในระยะสามารถเดินเท้าได้” ในปัจจุบันมีความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากไวรัสโคโรนา
  3. “พื้นที่ให้คำปรึกษา” ใช้สำหรับเปิดโรงพยาบาลและคลินิก
  4. สรุป: การเข้าใจประเภทของพื้นที่การค้าจะสามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์พื้นที่การค้าได้

“พื้นที่การค้าจริง” และ “พื้นที่การค้าโดยประมาณ”

พื้นที่การค้า คือ พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่มีกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายอาศัยอยู่หรือสัญจรไปมา โดยส่วนใหญ่เป็นร้านค้าและสถานประกอบการเชิงพาณิชย์ และเป็นพื้นที่ที่ดำเนินธุรกิจการค้าหรือธุรกรรมเชิงพาณิชย์ต่างๆ

เมื่อสร้างพื้นที่การค้าให้สร้างตามเงื่อนไขของระยะทางและเวลา ดังนี้

  • กำหนดรัศมีวงกลมหน่วยเป็นกิโลเมตร จากร้านค้าหรือจากบริษัทของคุณ
  • ระยะเวลาเดินทางหน่วยเป็นวินาที

พื้นที่การค้าจะถูกกำหนดตามลักษณะทางภูมิศาสตร์ เช่น รางรถไฟ ทางหลวง และสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ

พื้นที่การค้ามี 2 ประเภท ขึ้นอยู่กับวิธีการสำรวจประการแรกคือ “พื้นที่การค้าจริง” ซึ่งกำหนดขึ้นโดยการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าที่เข้าชมร้านค้าที่มีอยู่จริง
เนื่องจากสามารถรวบรวมข้อมูลจากผู้บริโภคที่อยู่ในพื้นที่จริงได้โดยตรง จึงเป็นไปได้ที่จะกำหนดพื้นที่การค้าตามหลักฐานและผลลัพธ์ที่ได้ทำการสำรวจ

มีพื้นที่การค้าอีกหนึ่งประเภท คือ“พื้นที่การค้าประมาณการ”
ซึ่งกำหนดขึ้นตามสถานที่ก่อนเปิดหรือสถานที่ชั่วคราว เช่น การเปิดร้านหรือการย้ายที่ตั้ง พื้นที่การค้าประเภทนี้เป็นการสันนิษฐานขึ้นหรือที่ เรียกว่า “พื้นที่การค้าประมาณการ” ซึ่งจะขึ้นอยู่กับแผนที่และข้อมูลเชิงพื้นที่แต่ละประเภท เช่น ประชากรและจำนวนครัวเรือนเป็นหลัก

ประเภทและบทบาทของพื้นที่การค้าประมาณการที่ควรทราบเมื่อดำเนินการสำรวจพื้นที่การค้า

“พื้นที่การค้าประมาณกาณ” กำหนดขึ้นโดยการคาดการณ์และการวิเคราะห์ข้อมูลรวมถึงพื้นที่การค้าที่แบ่งออกเป็นหมวดหมู่ย่อยตามระยะทาง แม้ว่าพื้นที่การค้าจริงจะสามารถสร้างจากข้อมูลของลูกค้าได้ แต่สิ่งสำคัญ คือ ต้องเข้าใจการจำแนกประเภทของพื้นที่
การค้า ณ พื้นที่นั้นๆให้ได้ก่อนและกำหนดช่วงที่เหมาะสมกับประเภทธุรกิจที่ร้านค้าของคุณตั้งอยู่ ขั้นแรก เรามาตรวจสอบว่าพื้นที่การค้าแต่ละแห่งมีการแบ่งประเภทเป็นอย่างไรก่อน

เขตพื้นที่การค้าลำดับที่ 1 ถึง ลำดับที่ 3 ซึ่งจะพิจารณาจากความน่าจะเป็นในการเข้ามาชมร้านของลูกค้า

มีการแบ่งพื้นที่การค้าแบ่งออกเป็นพื้นที่การค้าหลักจนถึงพื้นที่การค้านอกเขตศูนย์กลาง

พื้นที่การค้าหลัก

“พื้นที่การค้าหลัก” คือพื้นที่ที่มีอัตราการเข้าชมพื้นที่การค้าสูงสุด และโดยทั่วไปจะมีระยะทางจากสถานที่สำคัญเป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร โดยใช้เวลาเดินเพียง 10 ถึง 15 นาที
ในพื้นที่การค้าหลักนี้นักท่องเที่ยวอาจจะไปที่ร้านเกือบทุกวัน การมีข้อมูลกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่การค้าหลักให้มากเท่าที่จะเป็นไปได้ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการทำธุรกิจ

พื้นที่การค้ารอง

“พื้นที่การค้ารอง” คือพื้นที่นอกเขตการค้าหลัก และอยู่ห่างจากร้านค้าในรัศมีประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาปั่นจักรยานประมาณ 15 นาที
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพื้นที่การค้ามีการขยายตัวมากขึ้น และสามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้ง่ายเนื่องจากมีสิ่งกีดขวางและปัจจัยด้านภูมิศาสตร์ต่างๆ เช่น ทางหลวง แม่น้ำ และที่ตั้งของร้านค้าคู่แข่ง

พื้นที่การค้านอกเขตศูนย์กลาง

“พื้นที่การค้านอกเขตศูนย์กลาง” คือพื้นที่ที่อยู่นอกเขตการค้าหลักและรองช ผู้ที่ไปเยี่ยมชมส่วนใหญ่ไปที่ร้านไม่กี่ครั้งต่อเดือน และแทบไม่มีใครเดินไปที่ร้านหรือปั่นจักรยานเลย
ระยะทางโดยประมาณในการเดินทาง ณ เขตพื้นที่นี้ คือ 30 ถึง 40 นาที เดินทางโดยรถยนต์

พื้นที่การค้ามีการผันแปรขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจ

พื้นที่การค้าจะแตกต่างกันไปตามความสำคัญและรัศมีของระยะทางจริงขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจ

ตัวอย่างเช่น สำหรับร้านอาหารในช่วงกลางวันที่มุ่งเป้าหมายไปกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนทำงาน พื้นที่การค้าที่ที่ควรให้ความสำคัญที่สุด คือ “พื้นที่การค้าหลัก” ซึ่งผู้คนสามารถเดินไปได้ในช่วงพักกลางวัน ในทางกลับกัน ในกรณีห้องจัดงานแต่งงาน สถานที่จัดงาน และธุรกิจประเภทอื่นๆ ที่ไม่มีความถี่ในการใช้งานบริการสูง มีความต้องการลูกค้าในแบบที่หลากหลาย รวมถึง “พื้นที่การค้านอกเขตศูนย์กลาง” ในการใช้กลยุทธ์ทางธุรกิจ ให้ลองเปรียบเทียบธุรกิจของคุณกับพื้นที่การค้าแต่ละประเภทเพื่อดูว่าคุณควรกำหนดระยะห่างของพื้นที่การค้ามากแค่ไหนเพื่อให้เกิดความเหมาะสมและได้ผลลัพธ์ในการตั้งร้านอย่างมีประสิทธิภาพ

“พื้นที่การค้าท้องถิ่น” หรือ พื้นที่การค้าที่อยู่ในระยะสามารถเดินเท้าได้” ในปัจจุบันมีความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากไวรัสโคโรนา

“พื้นที่การค้าท้องถิ่น” หรือ พื้นที่การค้าที่อยู่ในระยะสามารถเดินเท้าได้” ในปัจจุบัน เป็นพื้นที่การค้าที่มีความสำคัญมากขึ้นเนื่องจากการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
“พื้นที่การค้าท้องถิ่น ” หรือพื้นที่การค้าที่สามารถเดินเท้าได้ หมายถึง พื้นที่การค้าที่อยู่ใกล้มาก ซึ่งคุณสามารถไปถึงร้านค้าได้ภายใน 5 นาที ถือว่ามีความสำคัญในธุรกิจด้านความสะดวกสบาย เช่น ร้านสะดวกซื้อ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ คนจึงงดออกไปข้างนอกมากขึ้น และผู้บริโภคจำนวนมากก็หลีกเลี่ยงการเดินทางโดยรถไฟและการอยู่ท่ามกลางพื้นที่ที่มีจำนวนคนหนาแน่น ส่งผลให้คนนิยมเลือกร้านค้าใกล้บ้านและอยู่ในระยะที่สามารถเดินไปถึงได้มากขึ้น

ในอนาคต อุตสาหกรรมที่อยู่ใน “พื้นที่การค้าท้องถิ่น” หรือพื้นที่การค้าที่อยู่ในระยะสามารถเดินเท้าได้ จะมีผลกระทบต่อการปรับปรุงประสิทธิภาพทางธุรกิจ ได้แก่ ผู้ค้าปลีกสินค้าสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านขายยา รวมถึงร้านอาหารในเขตเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร้านอาหารในเมืองใหญ่กำลังเผชิญกับผลการดำเนินธุรกิจที่ยอดขายลดลง เนื่องจากความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการขอความร่วมมือจากหน่วยงานให้งดเปิดให้บริการ สิ่งสำคัญคือต้องรู้จักกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่อยู่ในพื้นที่เชิงพาณิชย์และปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในปัจจุบันตามโลกที่เปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากผลกระทบของโคโรนาไวรัส

“พื้นที่ให้คำปรึกษา” ใช้สำหรับเปิดโรงพยาบาลและคลินิก

นอกจากร้านค้าทั่วไปแล้ว ยังมีธุรกิจประเภทอื่นๆ ที่สามารถดำเนินธุรกิจในพื้นที่การค้าของตัวเองได้อีกด้วย
ตัวอย่างทั่วไปของธุรกิจประเภทนี้ คือ โรงพยาบาลและสถานพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับคลินิก

ในกรณีของสถาบันทางการแพทย์ กลยุทธ์การจัดการและการพัฒนาธุรกิจประเภทนี้ จะเปิดเป็น “พื้นที่ให้คำปรึกษา” แทนที่จะเป็นพื้นที่การค้า โดยทั่วไปแล้วสถานที่ทางการแพทย์ที่มีบุคลากรและเครื่องมือแพทย์ครบครันที่อยู่ในรัศมีประมาณ 0.5 กิโลเมตร กำหนดให้เป็น “พื้นที่ให้คำปรึกษาหลัก”
ส่วนพื้นที่ที่มีผู้เชี่ยวชาญและแพทย์ที่มีชื่อเสียง ระยะทางจะขยายออกเป็นประมาณ 1 กิโลเมตรและถูกกำหนดเป็น “พื้นที่ให้คำปรึกษารอง”

แม้ว่าแนวคิดนี้ไม่ได้ใช้กันในบริษัททั่วไปมากนัก แต่เมื่อพิจารณาถึงขอบเขตการรักษาพยาบาลนี้ คุณจะสามารถวางแผนได้จากหลายๆ มุมมอง เช่น การดูว่าผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มเป้าหมายสะดวกที่จะเดินทางไปยังสถานพยาบาล ณ พื้นที่ให้คำปรึกษาพื้นที่ไหนมากกว่ากัน

สรุป: การเข้าใจประเภทของพื้นที่การค้าจะสามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์พื้นที่การค้าได้

คำว่า “พื้นที่การค้า” มีความหมายที่กว้างและหลากหลายมาก แต่ละพื้นที่จะมีร้านค้าที่กำลังดำเนินการอยู่ แต่ละร้านจะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าตามพื้นที่การค้าจริงได้
หากคุณกำลังวางแผนเปิดร้านค้าใหม่ ให้วิเคราะห์พื้นที่การค้า โดยพิจารณาตาม “พื้นที่การค้าประมาณการ” โดยอ้างอิงจากข้อมูลทางสถิติและภูมิศาสตร์

ถึงแม้ว่าจะมีเครื่องมือและใช้บริการที่ปรึกษาด้านการวิเคราะห์พื้นที่การค้า แต่หากไม่มีหลักการพื้นฐานในการสำรวจวิเคราะห์พื้นที่การค้า อาจทำให้การวิเคราะห์พื้นที่การค้าไม่ถูกต้อง ส่งผลกระทบต่อการขายสินค้าเกิดความเสี่ยงทำให้ธุรกิจของคุณขาดทุนได้
เมื่อกำหนดพื้นที่การค้าแล้ว ให้ทำความเข้าใจความหมายและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นที่การค้าอย่างละเอียด จากนั้นกำหนดพื้นที่การค้าที่เหมาะสมสำหรับร้านค้าของคุณ

Copied title and URL