ทัศนียภาพต่างๆ ที่ใช้ในเรื่องการตลาดเชิงพื้นที่ มีอะไรบ้าง? บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตั้งแต่วิธีการเริ่มต้นจนถึงเรื่องสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ

Area Marketing
This article can be read in about 15 minutes.

ความเชี่ยวชาญเรื่องการตลาดเชิงพื้นที่โดยการวิเคราะห์ข้อมูลตามภูมิภาค จึงสามารถใช้ในการวิเคราะห์ตำแหน่งของร้านค้าที่มีหน้าร้านและเวลาเปิดทำการ ช่วยให้มองเห็นลักษณะเฉพาะของพื้นที่การค้าได้

ตัวอย่างเช่น เมื่อกำหนดมาตรการที่มุ่งเน้นให้เพิ่มการเข้าเยี่ยมชมร้านและยอดขาย การวิเคราะห์ข้อมูลในการตลาดเชิงพื้นที่ก็จะช่วยสร้างประสิทธิผลได้

บทความนี้จะอธิบายสถานการณ์ที่สามารถประยุกต์ใช้กับการตลาดเชิงพื้นที่ได้ รวมถึงเรื่องสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการทำการตลาดหากคุณกำลังพิจารณาทำการตลาดแบบ Area Marketing โปรดอ่านบทความนี้

  1. การตลาดเชิงพื้นที่สามารถนำไปใช้ทำอะไรได้บ้าง?
  2. การตลาดเชิงพื้นที่เป็นเทคนิคที่ใช้ในสถานการณ์ใด?
    1. แผนการที่ 1: การวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันและความเข้าใจในเรื่องต่างๆ
    2. แผนการที่ 2: การวิเคราะห์การเปิด/ปิดร้านค้า
    3. แผนการที่ 3: การคาดการณ์ยอดขายและความต้องการ
    4. แผนงานที่ 4: การวิเคราะห์ลูกค้า
  3. อะไรคือกุญแจสำคัญในการทำให้การตลาดเชิงพื้นที่ประสบความสำเร็จ?
    1. ระบุวัตถุประสงค์และเป้าหมายของคุณ
    2. รู้ถึงคุณลักษณะเฉพาะของข้อมูล
    3. ไม่เพียงแต่ดำเนินการวิเคราะห์เชิงปริมาณแต่ยังรวมถึงการวิเคราะห์เชิงคุณภาพด้วย
  4. สรุป : เรามาทำการบริหารจัดการร้านให้เหมาะสมกับแต่ละภูมิภาคกันดีกว่า

การตลาดเชิงพื้นที่สามารถนำไปใช้ทำอะไรได้บ้าง?

“การตลาดเชิงพื้นที่”เป็นเทคนิคที่ใช้ในการพัฒนาแผนการตลาดเชิงลึกสำหรับแต่ละพื้นที่ (ภูมิภาค) ในธุรกิจแบบมีหน้าร้าน

“การตลาดแบบเจาะพื้นที่” คือ การสร้างระบบในการจัดหาผลิตภัณฑ์ในพื้นที่เฉพาะ เช่น การทำให้ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่และผู้ที่ไปใช้บริการบริเวณนั้น ๆ รับรู้ถึงผลิตภัณฑ์ของร้าน จนนำไปสู่การซื้อได้

ข้อดีของการทำวิธีการตลาดด้วยวิธีนี้ คือ เราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนในการดึงดูดลูกค้าและเพิ่มยอดขายได้โดยการพัฒนามาตรการทางการตลาดที่เหมาะกับลักษณะของพื้นที่ที่ร้านตั้งอยู่ แทนที่จะใช้วิธีเดียวกันทั่วประเทศ

การตลาดเชิงพื้นที่เป็นเทคนิคที่ใช้ในสถานการณ์ใด?

การตลาดเชิงพื้นที่ใช้ใน 4 สถานการณ์หลัก ดังนี้

  • 1. วิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันของร้านค้าและทำความเข้าใจเรื่องต่างๆ
  • 2. วิเคราะห์ก่อนตัดสินใจว่าจะเปิดหรือปิดร้านเวลาไหน
  • 3. คาดการณ์ยอดขายและอุปสงค์
  • 4. วิเคราะห์ลูกค้าในพื้นที่ธุรกิจ

เราจะแนะนำแผนการต่างๆ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ ดังนี้

แผนการที่ 1: การวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันและความเข้าใจในเรื่องต่างๆ

การตลาดเชิงพื้นที่ซึ่งระบุลักษณะเฉพาะของภูมิภาคสามารถใช้ในการวิเคราะห์สภาพปัจจุบันและระบุปัญหาในแต่ละพื้นที่การตลาดได้

หลังจากกำหนดพื้นที่ธุรกิจของพื้นที่ที่ตั้งร้านค้าแล้ว เราจะระบุประชากรเป้าหมายในพื้นที่ธุรกิจหลัก เพื่อวิเคราะห์ลักษณะของสถานที่ วิเคราะห์ว่าผู้คนประเภทใดชอบผลิตภัณฑ์ของเรา และวิเคราะห์ว่าปัจจัยใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของผู้ใช้

สิ่งที่สำคัญ คือ ต้องทราบสถานะปัจจุบันของร้านค้า เมื่อพัฒนาแผนการขาย และเมื่อระบุปัญหา

ในทางกลับกันถ้าปัญหาที่ต้องแก้ไขนั้นชัดเจนเช่น ยอดขายร้านค้าลดลง หรือจำนวนลูกค้าที่มีจำนวนลดน้อยลงการตลาดแบบเจาะพื้นที่ก็จะถูกนำมาใช้เพื่อทำการวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันอย่างละเอียด และกำหนดมาตรการที่เฉพาะเจาะจง

แผนการที่ 2: การวิเคราะห์การเปิด/ปิดร้านค้า

เทคนิคการตลาดเชิงพื้นที่ ยังใช้ในการวิเคราะห์เวลาเปิดและปิดของร้านค้าได้ด้วย
แม้ว่าธุรกิจจะไปได้ดีในพื้นที่อื่นๆแต่ยอดขายอาจไม่มั่นคงเท่ากับร้านค้าอื่นๆ เนื่องจากสภาพแวดล้อมในท้องถิ่นแตกต่างกันและมีความต้องการที่แตกต่างกันตามแต่ละอุตสาหกรรม

หากคุณกำลังคิดจะเปิดร้านใหม่ให้ใช้ข้อมูลทางสถิติและการประมาณการเพื่อวิเคราะห์ลักษณะของพื้นที่ เช่น จำนวนประชากร รายได้ครัวเรือน แนวโน้มการบริโภค และความพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกทางการค้าภายในพื้นที่การค้าของร้านเพื่อให้มีศักยภาพขึ้นจุดประสงค์คือเพื่อยืนยันว่าผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทตรงกับลักษณะของผู้อยู่อาศัยในพื้นที่หรือไม่ เพื่อคาดการณ์ยอดขายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในพื้นที่นั้น และเพื่อตัดสินใจว่าจะเปิดร้านใหม่หรือไม่

การตลาดเชิงพื้นที่ยังสามารถวิเคราะห์พื้นที่โดยรอบของร้านค้าที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิผล

เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี ลักษณะของพื้นที่อาจเปลี่ยนแปลงไป นโยบายการบริหารจัดการและวิธีการส่งเสริมการขายอาจไม่เหมาะสมอีกต่อไป และอาจไม่สามารถขายได้เหมือนเดิมอีกต่อไป
การวิเคราะห์การตลาดเชิงพื้นที่ยังมีความสำคัญในการตัดสินใจว่าควรจะดำเนินการต่อหรือปิดร้านค้าดังกล่าว

แผนการที่ 3: การคาดการณ์ยอดขายและความต้องการ

การตลาดเชิงพื้นที่สามารถใช้เพื่อคาดการณ์ยอดขายและความต้องการของคนในพื้นที่ได้
การวิเคราะห์ข้อมูลระดับภูมิภาคของร้านและข้อมูลลูกค้าของร้านเองทำให้สามารถรวบรวมข้อมูลได้ว่ากลุ่มเป้าหมายอาศัยอยู่ในพื้นที่จำนวนเท่าใด และต้องการสินค้าและบริการแบบไหนจากข้อมูลที่รวบรวมมา จะสามารถคาดการณ์ยอดขายและความต้องการสินค้าได้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น

โดยการเข้าใจความต้องการของคนในท้องถิ่นผ่านทางการตลาดเชิงพื้นที่ คุณจะสามารถทำกิจกรรมส่งเสริมการขายที่มีประสิทธิภาพและบรรลุผลสำเร็จได้ โดยสามารถรับรู้ว่าพื้นที่ไหนมีความต้องการตรงกับผลิตภัณฑ์ของคุณ จากนั้นมุ่งเน้นไปยังพื้นที่ที่มีความต้องการนั้นได้

แผนงานที่ 4: การวิเคราะห์ลูกค้า

การตลาดเชิงพื้นที่ยังมีความจำเป็นต่อการวิเคราะห์ลูกค้าอีกด้วยการตลาดเชิงพื้นหรือการวิเคราะห์พื้นที่ จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการของแต่ละภูมิภาค ซึ่งสามารถสะท้อนออกมาได้ในกลยุทธ์ต่างๆ เช่น การส่งเสริมการขายที่มีประสิทธิภาพและการพัฒนาเมนูของร้าน

ตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์ที่มุ่งเน้นไปที่โครงสร้างครอบครัว รายได้ครัวเรือน และวิถีชีวิตจะแสดงให้เห็นลักษณะเฉพาะของพื้นที่เป้าหมาย

การเพิ่มยอดขายนอกจากการติดตามลูกค้าเดิมแล้ว ยังจำเป็นต้องหาลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพในพื้นที่บริเวณโดยรอบร้านด้วยโดยการลบจำนวนครัวเรือนที่เป็นลูกค้าเดิมออกจากจำนวนครัวเรือนทั้งหมดในพื้นที่การค้าหลัก ก็สามารถระบุลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพได้

สิ่งสำคัญที่ต้องระวัง คือ ข้อมูลของลูกค้าคือข้อมูลส่วนบุคคล
เมื่อคุณจัดการข้อมูลส่วนบุคคล คุณต้องหลีกเลี่ยงการใช้ข้อมูลในลักษณะที่อาจทำให้ข้อมูลรั่วไหลไปยังบุคคลภายนอก นอกจากนี้ คุณควรระมัดระวังอย่างยิ่งในการจัดการข้อมูลและนำข้อมูลไปวิเคราะห์

การวิเคราะห์ลูกค้ามีประโยชน์สำหรับการโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ

หากคุณกำลังพิจารณาที่จะลงโฆษณา การทำความเข้าใจลักษณะเฉพาะของลูกค้าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นจะช่วยให้คุณสามารถกำหนดวิธีการที่เหมาะสมได้

ตัวอย่างเช่น ควรแนะนำให้ใช้มาตรการส่งเสริมการขายที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละรายช่น เว็บไซต์สื่อออนไลน์และโฆษณาทางสื่อโซเชี่ยลมีเดีย ในพื้นที่ที่มีประชากรวัยรุ่นจำนวนมาก และการแจกใบปลิวแม้กระทั่งการส่งไปรษณีย์ โดยส่งในพื้นที่ที่มีประชากรผู้สูงอายุจำนวนมาก

อะไรคือกุญแจสำคัญในการทำให้การตลาดเชิงพื้นที่ประสบความสำเร็จ?

หากต้องการให้การทำการตลาดเชิงพื้นที่ประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องคำนึงถึง 3 เรื่อง ต่อไปนี้

  • การระบุวัตถุประสงค์และเป้าหมายทางการตลาดในพื้นที่
  • การรู้ลักษณะเฉพาะของข้อมูล
  • การดำเนินการวิเคราะห์ทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ

ทุกเรื่องมีความสำคัญต่อความสำเร็จของการตลาดเชิงพื้นที่ ดังนั้น ควรศึกษาไว้

ระบุวัตถุประสงค์และเป้าหมายของคุณ

ก่อนที่คุณจะเริ่มทำการตลาดเชิงพื้นที่กุญแจสำคัญของความสำเร็จ คือ การระบุวัตถุประสงค์และเป้าหมายของคุณ

หากวัตถุประสงค์ของการทำตลาดแบบเจาะจงพื้นที่ชัดเจน การเบี่ยงเบนประเด็นหรือหลงทิศทางก็ยากที่จะเกิดขึ้น และแม้ว่าจะเบี่ยงเบนไปจากทิศทางที่ตั้งไว้ ก็จะสามารถแก้ไขแนวทางได้ง่าย การกำหนดเป้าหมายก่อน ทำให้มองเห็นแนวทางชัดเจนยิ่งขึ้นว่าคุณต้องการรวบรวมข้อมูลประเภทใด ทำให้ค้นหาวิธีแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น

เพื่อให้ง่ายต่อการแบ่งปันและประเมินผลกับทีมทั้งหมดเราขอแนะนำให้คุณระบุวัตถุประสงค์และเป้าหมายของคุณอย่างชัดเจน แทนที่จะจินตนาการแค่ภาพออกมาเท่านั้น

รู้ถึงคุณลักษณะเฉพาะของข้อมูล

เมื่อคุณทำการตลาดเชิงพื้นที่ คุณจะต้องใช้ข้อมูลหลายประเภทคุณควรรู้ถึงลักษณะเฉพาะของข้อมูลแต่ละประเภท

ตัวอย่างเช่นจำนวนครัวเรือนแบ่งเป็น “จำนวนครัวเรือนที่มีเด็กอายุต่ำกว่า X ปี” และ “จำนวนครัวเรือนตามรายได้ต่อปี” และประชากรแบ่งเป็น “ประชากรตามเพศ” และ “ประชากรตามอายุ”

ข้อมูลที่คุณต้องการจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเป้าหมายของคุณก่อนดำเนินการวิเคราะห์ โปรดเลือกข้อมูลที่เหมาะสมกับเป้าหมายที่ตั้งไว้

เราแนะนำให้ใช้ระบบ GIS สำหรับการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

เราขอแนะนำให้ใช้เครื่องมือ เช่น ระบบ GIS หรือระบบภูมิสารสนเทศศาสตร์ เพื่อรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลในพื้นที่เฉพาะคุณสามารถดาวน์โหลดข้อมูลแผนที่ดิจิทัลได้ ทำให้เข้าใจแนวโน้มในแต่ละภูมิภาคได้ง่ายขึ้น

แมปมาร์เก็ตติ้ง ขอนำเสนอ “TerraMap Thailand” ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลตำแหน่ง ข้อมูลสถิติ และฟังก์ชันการวิเคราะห์ต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการวิเคราะห์พื้นที่การค้า
TerraMapThailand รายละเอียดดังหน้าต่อไปนี้

ไม่เพียงแต่ดำเนินการวิเคราะห์เชิงปริมาณแต่ยังรวมถึงการวิเคราะห์เชิงคุณภาพด้วย

ในการส่งเสริมการตลาดตามพื้นที่ สิ่งสำคัญ คือ ไม่เพียงแต่พึ่งพาข้อมูลเชิงตัวเลขเท่านั้น แต่ยังต้องลงสำรวจพื้นที่จริงซึ่งจะสามารถสัมผัสถึงลักษณะเฉพาะของพื้นที่นั้นๆ ได้ด้วย

การเดินเล่นรอบเมืองและตรวจสอบทัศนียภาพรอบข้างและลักษณะเฉพาะของผู้คนที่ผ่านไปมา อาจทำให้เกิดไอเดียและเรื่องใหม่ๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยการดูแค่ตัวเลขเพียงอย่างเดียว

หากคุณมีสถานที่หลายแห่งที่มีศักยภาพในการเปิดร้านอย่าลืมทำการวิเคราะห์เปรียบเทียบสถานที่แต่ละแห่งโดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบด้วยหากคุณไม่แน่ใจว่าจะเลือกวิธีการวิจัยแบบไหน คุณสามารถศึกษาเรื่องราวความสำเร็จในอดีตของบริษัทของคุณหรือคู่แข่ง หรือใช้บริการจากบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญสนับสนุนงานการตลาดเชิงพื้นที่

สรุป : เรามาทำการบริหารจัดการร้านให้เหมาะสมกับแต่ละภูมิภาคกันดีกว่า

  • การตลาดเชิงพื้นที่เป็นวิธีการตลาดที่ปรับให้เข้ากับลักษณะเฉพาะของแต่ละภูมิภาค
  • การตลาดเชิงพื้นที่ยังใช้ในการวิเคราะห์สภาพพื้นที่ปัจจุบัน พิจารณาเวลาการเปิดปิดร้าน และคาดการณ์ยอดขาย
  • สิ่งสำคัญ คือ ต้องระบุวัตถุประสงค์และเป้าหมาย และจัดการข้อมูลต่างๆ อย่างเหมาะสม

การตลาดเชิงพื้นที่ คือ การตลาดที่ตระหนักถึงลักษณะเฉพาะของพื้นที่เป้าหมาย และมีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์สถานะปัจจุบันของร้านค้าที่มีอยู่ พิจารณาการเปิดร้านใหม่ และคาดการณ์ยอดขาย กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะเฉพาะของข้อมูล การจัดการข้อมูลที่สามารถนำไปวิเคราะห์ทำการตลาดตามแต่ละพื้นที่ให้เหมาะสมจนนำไปสู่การประสบความสำเร็จได้

อ่านบทความนี้ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการตลาดเชิงพื้นที่และหาวิธีที่สามารถช่วยคุณส่งเสริมการขายและขยายสาขาหรือร้านค้าในชุมชนของคุณได้

Copied title and URL